การเมือง
สภาฯ ลุยงบฯ วาระ 2 ยังไม่ถึงครึ่ง ฝ่ายค้านดันเพิ่มวันประชุม - 'เพื่อไทย' ลั่นขอเผาทิ้งบัตรคนจน
วันที่ 18 ส.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3.18 ล้านล้านบาท ในวาระที่ 2 ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดย ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ดำเนินการประชุมต่อเนื่องในวันที่สองตั้งแต่ช่วง 10.00 น. โดยช่วงต้นได้ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบกับมาตรา 8 ว่าด้วยงบประมาณของกระทรวงกลาโหมโดยไม่ต้องแก้ไข
’เพื่อไทย’ ลั่นเผาบัตรคนจน หากได้เป็นรัฐบาล
จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาต่อเนื่องในรายมาตรา โดยได้มีการอภิปรายแสดงเหตุผลกันอย่างกว้างขวางจากกรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อย ตลอดจน ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อให้มีการตัดลบงบประมาณลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย เช่น อุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย อนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร และ ส.ส.จากพรรคก้าวไกล อาทิ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาท ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย สลับกับ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล บางส่วน
ระหว่างพิจารณามาตรา 9 ว่าด้วยงบกระทรวงการคลัง อุบลศักดิ์ ในฐานะกรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อยที่สงวนความเห็น ได้อภิปรายทักท้วงการใช้งบประมาณเพื่อดำเนินนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน เพราะพบว่าการช่วยเหลือดังกล่าวไม่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมียอดคนจนเพิ่มขึ้น และหากปีหน้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะเผาบัตรคนจนทิ้งทั้งหมด เพราะจะทำให้คนจนรวยแบบเสมอภาค
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ขอปรับลด 6% หรือ 629 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่า มีความเป็นห่วงกระทรวงการคลังไม่ให้ความสำคัญกับการจัดเก็บภาษี และปล่อยให้การจัดเก็บภาษีอยู่ในความรับผิดชอบของ 3 หน่วยงาน ซึ่งอาจขาดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินการ ขอเสนอให้กระทรวงการคลังปรับปรุงการจัดเก็บภาษีของกลุ่มบุคคลที่มีฐานะดี ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดกรณีผู้มีฐานะดี ปลูกกล้วยกลางเมืองหลวง แล้วกระทรวงการคลังวินิจฉัยว่ามีการทำการเกษตรแล้ว
'ภูมิใจไทย’ ลุกเชียร์กระทรวงท่องเที่ยวฯ ‘งูเห่า’ ผสมโรง
เมื่อการประชุมสภาฯได้พิจารณาถึงมาตรา 11 งบประมาณกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทำให้ ส.ส.พรรึภูมิใจไทย บางคนลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุนให้ผ่านงบประมาณของกระทรวงท่องเที่ยวฯ อาทิ ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ศรีนวล บุญลือ สส.เชียงใหม่ พรรคภูมิใจไทย ตลอดจน จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยที่เป็น ส.ส.งูเห่าของพรรคเพื่อไทย ที่จะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย
โดย ณัฏฐ์ชนน อภิปรายว่าช่วงแรกเสนอให้ตัดงบลง 5% แต่มองว่าตนคิดผิด พอเห็นงบประมาณของกระทรวงการท่องเที่ยว 3 พันล้านบาท น้ำตาแทบจะไหล เพราะเป็นถึงกระทรวงที่ทำรายได้ให้ประเทศสูงสุด แต่กลับได้รับการจัดสรรงบประมาณอย่างน้อยนิด เข้าทำนองเอาปลาซิวไปตกปลากระพง ขอให้สำนักงบประมาณช่วยพิจารณาโครงการสร้างรายได้ให้ประเทศในทุกกระทรวง ขอให้ช่วยคิดในเชิงบวก ไม่ใช่คิดว่าเกิดมาเพื่อจะตัดงบอย่างเดียวแล้วมีความสุข
“ผมเป็นคนไม่ใจดำ ผมไม่กล้าตัดงบ 5% ขอโทษด้วยครับที่เสนอตัดไป วันนี้ไม่กล้าตัดจริงๆ ต้องฝากงบปี 2567 ปีหน้า เพิ่มให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาหน่อยครับ ขอบคุณสำนักงบประมาณที่ท่านปรับวิธีคิดเพื่ออนาคตของประเทศ” ณัฏฐ์ชนน ทิ้งท้าย
ขณะที่ จาตุรงค์ อภิปรายโดยอ้างเหตุผลว่าที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการตามยุทธศาสตร์มาได้ด้วยดี เป็นกระทรวงที่สร้างรายได้ให้กับประเทศได้มากที่สุด แต่กลับได้รับงบประมาณเพียงน้อยนิด เช่นเดียวกับการกีฬาที่ได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ เช่น วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ทว่างบดำเนินการกลับน้อย ในหลายจังหวัดเยาวชนขาดการศึกษาด้านกีฬาที่เพียงพอ จึงขอให้กำลังใจรัฐบาลในการสร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว และเพิ่มศักยภาพให้การกีฬา
สภาฯ โหวตผ่านฉลุยงบฯ 5 กระทรวงรวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการอภิปราย ที่ประชุมก็ได้มีมติเห็นชอบตามที่ กมธ.เสียงข้างมากเสนอทั้ง 5 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง วงเงิน 1.04 หมื่นล้านบาท ด้วยคะแนนเสียง 222 ต่อ 88 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง
กระทรวงการต่างประเทศ วงเงิน 3.763 พันล้านบาท ด้วยคะแนนเสียง 195 ต่อ 88 เสียง ไม่มีงดออกเสียง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วงเงิน 3.054 พันล้านบาท ด้วยคะแนนเสียง 228 ต่อ 102 เสียง งดออกเสียง 3
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) วงเงิน 2.137 หมื่นล้านบาท ด้วยคะแนนเสียง 219 ต่อ 97 เสียง ไม่มีงดออกเสียง กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) วงเงิน 4.567 หมื่นล้านบาท ด้วยคะแนนเสียง 214 ต่อ 87 เสียง งดออกเสียง 1
ถกงบฯวาระ 2 ยังอืด 'เพื่อไทย' ดันต่อวันจันทร์ 22 ส.ค. - ภท.ค้านยึดข้อตกลง 3 วัน
เวลา 22.30 น. ระหว่างรอลงมติในมาตรา 14 งบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วงเงิน 60,365 ล้านบาท ทั้งนี้ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้หารือถึง ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมให้ช่วยกำชับห้าม ส.ส.กดบัตรแทนกัน ถ้าจำนวน ส.ส.ไม่ครบองค์ประชุมก็ให้พิจารณต่อวันที่ 19 ส.ค. 2565
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้หารือว่าภาพรวมการพิจารณายังไม่สามารถพิจารณาไปถึงครึ่งของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ โดยย้ำว่าถ้าพิจารณาไม่จบก็ให้พิจารณาต่อในวันจันทร์ที่ 22 ส.ค. เพราะ ส.ส.จะต้องลงพื้นที่ในช่วงวันหยุด และยืนยันไม่มีเหตุดึงเวลา แต่ต้องการให้มีการพิจารณาอย่างรอบด้าน
โดยชวน ย้ำว่าให้สองฝ่ายหารือกันก่อน ตอนนี้ยังไม่คิดจะพิจารณาต่อในวันจันทร์ที่ 22 ส.ค.นี้
แต่ ภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ทักท้วงความเห็นของจุลพันธ์ ว่า ข้อตกลงให้จบวันที่ 19 ส.ค.นี้ควรยืนหลักตรงนี้ไว้ก่อน โดยลดเวลาของผู้อภิปราย และกำหนดเวลาให้กระชับมากขึ้น และถ้าไม่เสร็จก็สามารถประชุมต่อในวันเสาร์ที่ 20 ส.ค.นี้ได้ และตนก็เป็นวิปรัฐบาลเหมือนกัน โดยพรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้มีการประสานตามที่ จุุลพันธ์ว่า
ทำให้ จุลพันธ์ กล่าวว่า วันนี้เดินตามข้อตกลงจบที่เที่ยงคืน ถ้ารัฐบาลจะเดินหน้าต่อก็เชิญ แต่ฝ่ายค้านจะไม่่ร่วมเป็นองค์ประชุมสภาฯ
เห็นชอบตาม กมธ.ข้างมากตั้งงบฯ ก.เกษตรฯ
จากนั้น ที่ประชุมสภาฯ มีมติ 251 เสียงเห็นชอบตาม กมธ.เสียงข้างมากเสนอให้มีการแก้ไขในมาตรา 14 งบประมาณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานในกำกับ ที่จัดสรรวงเงิน 60,365 ล้านบาท
ฝ่ายค้านยอมถกต่อวันเสาร์ที่ 20 ส.ค.
จากนั้น จุลพันธ์ หารือต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า วิปฝ่ายค้านได้หารือกับประธานวิปรัฐบาล แล้ว เราจะอภิปรายอีก 7 คน ถึงสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลในคืนนี้ และขอให้พักประชุมแล้วเปิดประชุมต่อช่วงเช้าวันที่ 19 ส.ค. เวลา 09.30 น. และลงมติมาตรา 15 งบฯ กระทรวงคมนาคม ในเวลา 10.00 น. ส่วนที่เหลือจะเร่ง แต่ถ้าพิจารณาไม่จบ ก็ให้พิจารณาต่อในวันเสาร์ที่ 20 ส.ค.นี้ ซึ่งฝ่ายค้านไม่ได้ติดใจ และไม่เห็นด้วยกับการประชุมไปถึงตี2-3
แต่ชวน ย้ำว่าตนเห็นว่าจะให้ประชุมดึกหน่อย และได้เท่าไรก็ต่อไปเรื่อยไม่จบก็ถึงค่ำคืน เพราะจริงๆไม่ใช่เรื่องแปลกในอดีตก็ทำเพื่อรักษาเวลาไปเรื่อยๆ เว้นแต่สมาชิกรับไม่ไหวอีกเรื่อง แต่ถ้าตกลงยังไงขอให้แจ้งให้ตนทราบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
