13 ก.ย. 2565 จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำ “จุรินทร์ ออนทัวร์” เขตหลักสี่ พร้อมกับ องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.ต.ดร.วิชัย สังข์ประไพ ผู้สมัคร เขตหลักสี่ แทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัครเขตบางเขน ดรุณวรรณ ชาญพิพัฒน์ชัย รองโฆษกพรรค และบรรดาอดีตผู้สมัคร ส.ก. ของพรรค และสมาชิกพรรค ลงพื้นที่เพื่อไปมอบถุงยังชีพ ปชป. ให้กับชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย ประมาณ 500 ครัวเรือน 

โดยจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ต่อการที่ก่อนหน้านี้ทันทีที่มีน้ำท่วมในหลายจังหวัด ตนก็ได้ให้ ส.ส. ของพรรคลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในจังหวัดที่ประสบอุทกภัย พี่น้องประชาชนก็สามารถประสานมาที่พรรค หรือ มูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หรือแจ้งความเดือดร้อนให้กับผู้แทนของพรรคโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีกระจายอยู่ทุกเขต ที่มีทั้งส.ก. มีอดีต ส.ก. อดีต ส.ข. สาขาพรรค ตัวแทนพรรค อดีต ส.ส. ของพรรค โดยจะได้ทำหน้าที่ประสานเข้าส่วนกลาง แล้วอะไรที่เราช่วยได้ก็จะได้ลงพื้นที่เหมือนวันนี้ แล้วก็จะตระเวนลงไปช่วยทุกๆ พื้นที่ที่ทำได้ และยังเป็นจุดอ่อนที่หน่วยงานเข้าไปไม่ถึง 

ไม่ลืมชาวบ้านในฐานะตัวแทนประชาชน

ส่วนเรื่องความพยายามเชื่อมโยงสถานการณ์น้ำท่วมให้มาเกี่ยวข้องกับการเมืองนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองว่า ตนไม่มีความเห็น แต่ตนก็เป็นนักการเมือง เราก็มีหัวใจเหมือนกัน ก็รู้ว่าเราโตมาจากประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด พื้นที่ชนบท แม้แต่ในกรุงเทพฯ ตนก็อาศัยอยู่มาหลายปี เพราะฉะนั้นเวลาน้ำท่วมครั้งนึงพี่น้องประชาชนเดือดร้อนอย่างไร เพราะฉะนั้นในฐานะนักการเมืองก็ต้องลงมาช่วยดูแลคนละไม้คนละมือกับส่วนราชการเพื่อช่วยกันแก้ปัญหา อะไรที่เราทำได้ เราก็ช่วยกันทำ คงทำไม่ได้เต็มร้อยทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ถือว่าเราไม่ลืมชาวบ้านในฐานะที่เราเป็นตัวแทนประชาชน และเป็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่อยู่คู่กับพี่น้องคนไทยทั่วประเทศมายาวนาน 

สำหรับการที่ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) อดีตผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเสนอแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วม ทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับการบริหารงาน กทม. ในปัจจุบันนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวในเรื่องนี้ว่า ตนไม่ขอให้ความเห็นตรงนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ก็มีหน้าที่ลงมาแก้ไขปัญหา ดร.เอ้ ก็ได้พูดออกตัวไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า ท่านไม่ประสงค์จะมาให้ความเห็นเพื่อการหาเสียง แต่อย่างน้อยก็เป็นความเห็นหนึ่งที่ ถ้าผู้บริหารจะรับไปเพื่อประกอบการพิจารณาในการแก้ปัญหาในช่วงเวลานี้ ก็จะเป็นประโยชน์ และจะเป็นประโยชน์ทั้งในการบริหารกรุงเทพมหานคร และเป็นประโยชน์ทั้งตัวพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ ด้วย ซึ่ง ดร.เอ้ ก็ได้ให้ความเห็นโดยสุจริตใจ ที่ต้องการเห็นการแก้ปัญหาคลี่คลายไปโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นชาวบ้านก็เดือดร้อน