นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังการมอบนโยบายและติดตามความคืบหน้าการดำเนินการโครงการบ้านล้านหลังที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยขอให้ ธ.อ.ส. เข้าไปดูแลกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะผู้ที่เลี้ยงดูบุพการีให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองเป็นลำดับแรก พร้อมให้สิทธิพิเศษในการจูงใจ ก่อนที่จะขยายไปสู่กลุ่มอื่นๆ

ทั้งนี้ยังขอให้ ธ.อ.ส.ขยายระยะเวลาการกู้เพิ่มขึ้นอีก จากปัจจุบันมีการขยายเวลาสูงสุดอยู่ที่ 40 ปี เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อย โดยฉพาะกลุ่มที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำมากขึ้น เพื่อให้ภาระผ่อนต่อเดือนลดลง หลังจากโครงการบ้านหลังล้านพบว่ามีกลุ่มที่ถูกปฏิเสธสินเชื่ออยู่เป็นจำนวนมาก

ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า โครงการบ้านล้านหลังเฟสแรกล่าสุดมีการปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 3,580 ราย รวมวงเงินสินเชื่อ 2,200 ล้านบาท จากผู้ที่ยื่นกู้ 4,100 ราย วงเงินกู้ 2,560 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ธนาคารจะเร่งเคลียผู้ที่ยื่นจองสิทธิจำนวน 127,000 ราย ให้เสร็จสิ้นภายใน 4 เดือน 

ส่วนโครงการบ้านล้านหลังเฟส 2 จะเริ่มต้นในเดือนกันยายน 2562 วงเงิน 80,000 ถึง 100,000 ล้านบาท โดยจะให้สิทธิ์ผู้ที่เลี้ยงดูบุพการีก่อน และจะจูงใจโดยการให้โบนัส หรือ ลดเงินต้นให้อัตโนมัติหากผ่อนครบ 3 ปี คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่าร้อยละ 3 หากกนง.ไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ทั้งนี้ ธ.อ.ส.ยังเตรียมขยายเวลากู้สูงสุด จาก 40 ปี เป็น 50 ปี ซึ่งจะทำให้ภาระผ่อนต่องวดเหลือเพียง 3,000 ต้นๆ จากปัจจุบันอยู่ที่ล้านละ 3,800 บาทต่อเดือน