ไม่พบผลการค้นหา
นพ.ปิยะพงษ์ หรือหมอบอนด์ พร้อมด้วยภรรยาเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีรีวิวสินค้าในเครือเมจิกสกิน ยืนยันไม่มีเจตนารีวิวสินค้า และไม่ได้ต้องการใช้ภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของแพทย์สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค

นพ.ปิยะพงษ์ โหวิไลลักษณ์ หรือหมอบอนด์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม และภรรยาน น.ส.ปวีณา นามสงคราม เดินทางเข้าให้ปากคำกับ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีรีวิวสินค้าชื่อ คลีโอ ผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิกสกิน โดยที่ นพ.ปิยะพงษ์ กล่าวว่า การรีวิวสินค้าที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องจากภรรยาสมัครเข้าไปเป็นตัวแทน โดยวันที่มีการรีวิวแม่ข่ายได้ชักชวนให้เข้าไปช่วยอธิบายสรรพคุณสินค้า โดยยืนยันว่าสาเหตุที่เข้าไปร่วมไลฟ์สดนั้นเพียงแค่ตั้งใจจะช่วยภรรยาขายสินค้า ไม่ได้ต้องการใช้ภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของแพทย์มาสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และก่อนโฆษณาได้ลองตรวจสอบเลข อย. รวมถึงทดลองกินด้วยตัวเองแล้ว ไม่พบว่ามีอาการข้างเคียง อีกทั้งไม่ได้รับค่าจ้างจากการร่วมโฆษณาในวิดีโอที่ปรากฏแต่อย่างใด

853175.jpg


ด้าน น.ส.ปวีณา กล่าวว่า ตนเองได้ทดลองกินผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งหลังกินไปแล้ว 7 วัน พบว่าน้ำหนักลดลงไม่มีอาการแทรกซ้อน และขณะนี้ตนถือว่าเป็นผู้เสียหายจากเครือข่ายเมจิกสกิน เพราะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ขอพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อดูแนวทางว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้บริหารเมจิกสกินหรือไม่ พร้อมขอความร่วมมือสื่อให้ช่วยนำเสนอข่าวให้ถูกต้องด้วย 

พล.ต.อ. วิระชัย แถลงข่าวเปิดรายชื่อบุคคลสำคัญเกี่ยวข้อง เมจิก สกิน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยระบุว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายเมจิกสกิน เข้าให้ปากคำ 7 คน คือ 1.ว่าที่ ร้อยตรี ปวีร์ ปานดำรงค์สถิตย์, 2.ทิพวรรณ หรือ อ้อย ตันไชย, 3.สุนีย์ กรมสูงเนินหรือนางณภัคร พรสกุลวนิช, 4.อภิวัส พงศ์พัฒนะนุกูล, 5.นายณัฐนันท์ อ่วมแก้ว, 6.นายกฤษณผล พินจอหอ, และ 7.นางสาวสิริญานี ฤทธิ์ดีสิริธร สำหรับบุคคลที่ได้ทำการออกหมายเรียกไปก่อนหน้านี้นั้น ยังถือว่าอยู่ในฐานะ พยาน โดยเจ้าหน้าที่กำลังรอผลตรวจผลิตภัณฑ์ เพื่อนำมาข้อมูลดังกล่าวมาใช้ประกอบการออกหมายจับกรณีพบสารอันตราย เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 – 2 เดือน

853168.jpg


สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทางตำรวจจะขยายผลการจับกุมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งยี่ห้อนั้น รอง ผบ.ตร. ยืนยันว่า หากพบสินค้าดังกล่าวเข้าข่ายมีสารที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบทุกยี่ห้อ โดยไม่คำนึงว่าผู้ประกอบการจะเป็นนักธุรกิจใหญ่ หรือเกี่ยวข้องกับบุคคลใดหรือไม่ ที่ผ่านมาตำรวจมีการประสานการทำงานร่วมกันกับองค์การอาหารและยา (อย.) มาตลอด ส่วนกรณีที่นักธุรกิจเสียชีวิตที่ จ.ปทุมธานี ล่าสุดพบว่าผู้ตายไม่มีโรคประจำตัว และร่างกายแข็งแรงดี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง