แนวร่วมพรรครัฐบาล ปากาตัน ฮารัปปัน นำโดย 'มหาเธร์ โมฮัมหมัด' นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีทั้ง 13 กระทรวง รวมถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการอีก 23 คน และในจำนวนนั้น ได้แก่ 'ไซเอ็ด ซาดิก อับดุลเราะห์มาน' ได้รับการจับตาอย่างมากจากสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งในมาเลเซียและประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ เนื่องจากเขาเป็นรัฐมนตรีว่าการที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์มาเลเซีย

การดำรงตำแหน่งของรัฐมนตรีของ 'ไซเอ็ด ซาดิก' ถือว่าทำลายสถิติที่ 'นาจิบ ราซัก' อดีตนายกรัฐมนตรีเคยสร้างไว้ เนื่องจากนาจิบรับตำแหน่งรัฐมนตรีขณะมีอายุได้ 25 ปี เมื่อ พ.ศ. 2521 แต่เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงาน โทรคมนาคม และไปรษณีย์

ทั้งนี้ 'ไซเอ็ด ซาดิก' เป็น รมว.กระทรวงเยาวชนและกีฬา ลำดับที่ 18 ของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อในประเทศ ว่าเขาคาดหวังให้การแต่งตั้ง ครม.ครั้งล่าสุดเป็นการเปิดโอกาสให้แก่คนรุ่นใหม่ เพื่อที่จะได้ยืนหยัดเพื่ออนาคตและเพื่อตัวพวกเขาเอง เพราะคนรุ่นใหม่ไม่ได้เป็นแค่ผู้นำของอนาคต แต่ยังสามารถเป็นผู้นำในปัจจุบันนี้ได้ด้วยเช่นกัน

'ไซเอ็ด ซาดิก' จบการศึกษาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติ และเริ่มมีชื่อเสียงทางการเมืองหลังจากที่เขาได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันโต้วาทีแห่งเอเชีย ซึ่งจัดโดยสภาบริติช-เอเชีย (ABP) และเมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขากลับปฏิเสธข้อเสนอเรื่องทุนการศึกษาระดับปริญญาโทของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด เพื่อทุ่มเทให้กับการทำงานการเมืองในมาเลเซียอย่างจริงจัง 

เมื่อปี 2559 'ไซเอ็ด ซาดิก' เป็นที่จับตามองจากกลุ่มคนรุ่นใหม่และคนในแวดวงการเมือง เนื่องจากเขาเป็น 1 ใน 24 สมาชิกของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมในมาเลเซีย (Change Led by the Young Generation (Challenger) ซึ่งออกแถลงการณ์คัดค้านความเป็นผู้นำของนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกล่าวหาว่าพัวพันการทุจริตและฟอกเงินกองทุน 1MDB ของรัฐบาล

รมว.เยาวชนและกีฬาคนใหม่ของมาเลเซีย ตั้งเป้าว่ารัฐบาลพรรคแนวร่วม ปากาตัน ฮารัปปัน จะช่วยเปลี่ยนแปลงทัศนคติและวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่ในสังคมมาเลเซียได้ เพราะรัฐบาลนี้มีความครอบคลุมและรับฟังประชาชนทุกคนโดยไม่เลือกว่าจะอยู่ในช่วงวัยใดหรือมีภูมิหลังแบบใด

ทางด้านไครี ญามาลุดดิน อดีต รมว.กระทรวงเยาวชนและกีฬา ทวีตข้อความแสดงความยินดีกับ 'ไซเอ็ด ซาดิก' พร้อมทั้งอวยพรให้เขาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีได้อย่างราบรื่น และระบุว่าภารกิจที่รออยู่คือการบริหารจัดการและเตรียมความพร้อมทัพนักกีฬามาเลเซียที่จะเข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที่จะจัดขึ้นที่อินโดนีเซียภายในเวลาไม่กี่เดือนต่อจากนี้

ที่มา: Channel News Asia/ Straits Times

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• มหาเธร์จุดกระแสรองเท้า ‘บาจา’ ในมาเลเซีย แสดงถึงความพอเพียง
• มหาเธร์คือความหวังใหม่ของมาเลเซีย?
• จับตา ‘มหาเธร์คนรุ่นเก่า’ สร้าง ‘มาเลเซียยุคใหม่’