น.สพ.สรวิศ ธานีโต ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์เริ่มเปิดยุทธการปราบปรามการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงสุกร โดยสั่งการให้รองอธิบดีกรมปศุสัตว์นำชุดเฉพาะกิจสารวัตรกรมปศุสัตว์กว่า 50 นาย เข้าตรวจปัสสาวะสุกรในฟาร์ม 8 แห่ง ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน ด้วยการบุกเข้าตรวจโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ตามแผนยุทธการสินค้าเกษตรปลอดภัยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

“หลังจากนี้จะปฏิบัติการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภค เนื่องจากสารเร่งเนื้อแดงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีสารนี้ อาจทำให้เจ็บป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้ ขอย้ำกับผู้ที่ลักลอบใช้ให้หยุดการกระทำผิด หากฝ่าฝืนและตรวจพบจะถูกดำเนินคดีในทันที ทั้งได้รับโทษหนักและอาจต้องปิดกิจการ” น.สพ.สรวิศ กล่าว

การลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดงในฟาร์มสุกรเป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ.2558 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้าน น.สพ.จีรศักดิ์ พิพัฒนพงศ์โสภณ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์และประธานคณะกรรมการบริหา��จัดการแก้ไขปัญหาการใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ครั้งนี้เป็นการตรวจสอบฟาร์มตามแบะแสที่มีผู้แจ้งผ่านแอพพลิเนชั่น “DLD 4.0” ซึ่งเป็นช่องทางใหม่ที่กรมปศุสัตว์เปิดขึ้น เพื่อให้สามารถแจ้งการกระทำความผิดด้านปศุสัตว์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

“จากการตรวจสอบฟาร์ม 5 แห่ง ที่เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างปัสสาวะสุกร ฟาร์มละ 5 ตัวอย่าง และตรวจด้วยชุดทดสอบเบื้องต้นชนิดรวดเร็วที่มีความแม่นยำสูง พบว่าทั้ง 25 ตัวอย่าง ให้ผลเป็นลบหรือไม่พบการตกค้างของสารเร่งเนื้อแดง ส่วนฟาร์มอีก 3 แห่ง ได้ปิดดำเนินการแล้ว ผลการตรวจในครั้งนี้สะท้อนถึงความตระหนักในกฎหมายและความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคของเกษตรกร หลังจากนี้ปศุสัตว์ทุกจังหวัดจะดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้นต่อไป” น.สพ.จีรศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ หากพบเห็นการกระทำผิดทั้งโรงฆ่าสัตว์เถื่อนและการใช้สารเร่งเนื้อแดง โปรดแจ้งเบาะแสผ่านแอพพลิเคชั่นในมือถือ "DLD 4.0" เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายได้ทันท่วงที โดยผู้แจ้งจะได้รับรางวัลสินบนนำจับหลังจากคดีสิ้นสุด