ไม่พบผลการค้นหา
ผู้ประกอบการเลี้ยงหมู-เกษตรกรนครปฐม หวัง รัฐบาลเพื่อไทย เป็นเซลล์แมนส่งออกสินค้าเกษตร-เปิดตลาดต่างประเทศ พาพี่น้องเกษตรกรไทยพ้นจากความยากจน

26 มีนาคม 2566 เวลา 16.00 น.พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย และคณะทำงานด้านการเกษตร นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย, นายอดิศร เพียงเกษ อดีตโฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นครปฐม ประกอบด้วย นายสมชาย มณีรัตน์, น.ส.ธนัญญา พันธุ์การรุ่ง, นายทรงพล ชูศิลป์กุล, นายวินัย วิจิตรโสภณ, นายมานพ คำหวาน และ นายธีรพงศ์ เย็นใจ ร่วมพูดคุยกับตัวแทนผู้ประกอบการค้าสุกรใน จ.นครปฐม ได้แก่ กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดนครปฐม เข้าหารือ แลกเปลี่ยน เสนอแนะปัญหาร่วมกับพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ได้แก่ นายสมคิด เรืองวิไลทรัพย์, นายมานะพันธ์ ชัยเมธสิทธิ์, นายอำนาจ ผลประเสริฐ, นายสิทธิชัย ผลประเสริฐ, นายสินชัย ศักดิ์รัตนชัย, นายสมบัติ จตุรภาคย์ภิญโญ, นายอดุลย์ โพธาคณาพงษ์, นายพีรพล ฤทธิเพชรอัมพร, นายวิบูลย์ ชัยมานะ และ นายภักดี ตั้งวิระยะ ณ ห้องประชุม สนามกีฬากลาง 1 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม 

  

ตัวแทนผู้ประกอบการค้าสุกรใน จ.นครปฐม บอกเล่าว่า ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเลี้ยงหมู ประสบกับโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู (African Swine Fever: ASF) ทำให้ผู้เลี้ยงหมูรายกลางและรายเล็กล้มหายไปจากระบบราว 40-50% ปัจจุบันผู้ประกอบการค้าสุกรที่ยังเหลือรอดเป็นกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรขนาด 500 ตัวขึ้นไป และเลี้ยงในระบบปิดของกลุ่มบริษัทผู้เลี้ยงรายใหญ่ของประเทศ 


ประกอบกับปัจจุบันนี้ วัตถุดิบสำหรับเลี้ยงดูสุกรมีราคาสูงขึ้น รวมถึงข้อจำกัดเรื่องของการจ้างแรงงานและปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรผิดกฎหมายจากต่างประเทศ ยิ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการรายย่อยประสบปัญหาอย่างหนัก 


“ทุกวันนี้เกษตรกรรายย่อยย่ำแย่มาก ประสบปัญหาต้นทุนการจัดการสูง รวมถึงปัญหาหมูกล่อง หรือหมูเถื่อน ที่เป็นเป้าหมายของขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูผิดกฎหมายจากประเทศต่างๆ สร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการเลี้ยงสุกรในจังหวัดนครปฐมอย่างยิ่ง” ตัวแทนผู้ประกอบการค้าสุกรใน จ.นครปฐม กล่าว


โดยหนึ่งในตัวแทนผู้ประกอบการค้าสุกรใน จ.นครปฐม ได้เสนอกับคณะพรรคเพื่อไทยว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล อยากขอให้รัฐบาลได้เป็นตัวกลางในการหาตลาดให้ หรือเป็นเซลล์แมน เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการค้าสุกรทุกรายอย่างเท่าเทียม โดยกำกับราคาให้เป็นธรรม ด้านตัวแทนยังกล่าวยืนยันด้วยว่าพรรคเพื่อไทยคือทางรอดของเกษตรกร ถ้าพรรคอื่นคงจะแก้ปัญหาไม่ได้ 


ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมกันเสนอแนะแลกเปลี่ยนเรื่องราวด้วยกันในวันนี้ พรรคเพื่อไทยเห็นใจผู้ประกอบการรายย่อย และขอรับเรื่องร้องเรียนข้อเสนอแนะดังกล่าวไว้ พร้อมกล่าวว่า ที่ผ่านมา ส.ส. พรรคเพื่อไทยได้นำเรื่องราวของพี่น้องชาวเกษตรกรไปหารือและอภิปรายในสภา เพื่อเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับเรื่องทุกข์ร้องของพี่น้องไปแก้ไขมาตลอด ซึ่งหน่วยงานเหล่านั้นก็ยังไม่สามารถบรรเทาทุกข์ยากของพี่น้องได้ 


อย่างไรก็ดี ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พรรคเพื่อไทยพร้อมรับใช้พี่น้องประชาชน โดยพรรคเพื่อไทยได้มีนโยบายที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อพัฒนาผลผลิต ลดต้นทุนการผลิต รวมไปถึงมีความตั้งใจและมีนโยบายที่จะเปิดตลาดและขยายตลาดในต่างประเทศให้เพิ่มมากขึ้น 


“รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะอาสาเป็นเซลล์แมน เพื่อนำสินค้าการเกษตรไปขายต่างประเทศ เราจะมองหาตลาดใหม่ๆ ให้เกษตรกร เพื่อรับประกันว่าเมื่อได้ผลผลิตแล้วจะต้องขายได้อย่างแน่นอน” นพ.ชลน่าน กล่าว


ขณะที่ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย และคณะทำงานด้านการเกษตร กล่าวให้กำลังใจกับผู้ประกอบการค้าสุกร พร้อมกับกล่าวถึงปัญหาเรื่องหมูกล่องนั้น กรมศุลกากรจำเป็นที่จะต้องมีบทบาทในการดูแลเรื่องนี้อย่างชัดเจน รวมถึงหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้องที่จำเป็นต้องเข้ามาดูแลผู้ประกอบการรายเล็กที่ได้รับผลกระทบหมดโดยหมด และจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็ว โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดโรคระบาดเกิดผลกระทบมหาศาล 


“พรรคเพื่อไทยได้ยินเสียงความเดือดร้อนเกษตรกรทุกภาคส่วน ปัญหานี้เกษตรกรได้ส่งเสียงเป็นเสียงเดียวกัน ‘ขอให้รัฐบาลเพื่อไทยมา เกษตรกรจะตายอยู่แล้ว’ ซึ่งปัญหาเหล่านี้พรรคเพื่อไทยจะแก้ไขให้ได้ เพื่อพาเกษตรกรออกจากความยากจน ซึ่งวันนั้นจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566

เข้าคูหา กาพรรคเพื่อไทย ทั้ง 2 ใบ เลือกทั้งคน ทั้งพรรค เพื่อให้เกษตรกรมีความสุข และเรา พรรคเพื่อไทยและเกษตรกร จะได้มาทำงานร่วมกัน” นายวิสุทธิ์ กล่าว