ไม่พบผลการค้นหา
วิจัยล่าสุดของอังกฤษระบุว่า เลสเบี้ยนเสี่ยงมีน้ำหนักเกินมาตรฐานมากกว่าคนรักเพศตรงข้าม ส่วนเกย์เสี่ยงน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐานมากกว่าคนรักเพศตรงข้ามถึง 3 เท่า

นิตยสารวิชาการ Journal of Public Health ตีพิมพ์วิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลีย และ ยูซีแอลได้สำรวจความเกี่ยวโยงระหว่างรสนิยมทางเพศและดัชนีมวลกาย (BMI) โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 90,000 คนในอังกฤษ เพื่อให้ศึกษาความสำคัญของความหลากหลายทางเพศที่ส่งผลกับสุขภาพและความต้องการด้านสาธารณสุขที่ต่างกัน

วิจัยชิ้นนี้พบว่า เลสเบี้ยนหรือหญิงรักหญิงที่น้ำหนักเกินมาตรฐาน คิดเป็นร้อยละ 59.3 ของทั้งหมด ขณะที่ผู้หญิงที่ชอบผู้ชายที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานอยู่ร้อยละ 57 หรือหากนำตัวเลขมาเปรียบเทียบจะพบว่า เลสเบี้ยนเสี่ยงน้ำหนักเกินมาตรฐานกว่าผู้หญิงที่ชอบผู้ชายถึงร้อยละ 41 ขณะที่ผู้หญิงที่เป็นไบเซ็กชวลเสี่ยงกว่าร้อยละ 24

ในทางกลับกัน เกย์เสี่ยงจะน้ำหนักเกินมาตรฐานน้อยกว่าผู้ชายที่ชอบผู้หญิงประมาณร้อยละ 28 โดยผู้ชายที่ชอบผู้หญิงที่น้ำหนักเกินมาตรฐานคิดเป็นร้อยละ 67.5 ของทั้งหมด ส่วนเกย์หรือชายรักชายที่นำหนักเกินมาตรฐานมีเพียงร้อยละ 52.4

ส่วนเกย์เสี่ยงมีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐานมากกว่าผู้ชายที่ชอบผู้หญิงถึง 3 เท่า ส่วนผู้ชายที่เป็นไบเซ็กชวลเสี่ยงน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐานมากกว่าผู้ชายที่ชอบผู้หญิง 2 เท่า โดยเกย์ที่น้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐานมีร้อยละ 3.4 ผู้ชายที่เป็นไบเซ็กชวลและน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐานมีร้อยละ 2.9 ขณะที่ผู้ชายที่ชอบผู้หญิงที่มีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐานมีอยู่เพียงร้อยละ 1.2

ด็อกเตอร์โจแอนนา เซมเลียน หัวหน้าทีมวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์นอร์ริชของมหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลียกล่าวว่า เลสเบี้ยนและผู้หญิงที่ไบเซ็กชวลมีความเสี่ยงจะน้ำหนักเกินมาตรฐานมากกว่าคนที่รักเพศตรงข้าม ซึ่งเป็นเรื่องน่ากังวลใจ เพราะน้ำหนักเกินมาตรฐานเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคหัวใจ มะเร็ง และการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ขณะเดียวกันเกย์และผู้ชายที่เป็นไบเซ็กชวลที่เสี่ยงน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐานก็จะทำให้เผชิญปัญหาสุขภาพหลายด้านเช่นกัน

ด็อกเตอร์เซมเลียนสันนิษฐานว่า กลุ่มหลากหลายทางเพศมักเผชิญกับความเครียด ความกดดันทางสังคมความเกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกัน และประสบการณ์แย่ๆ ที่เลสเบี้ยน ไบเซ็กชวลและเกย์เผชิญ ส่งผลให้รสนิยมทางเพศเกี่ยวข้องกับสุขภาพไปด้วย เพราะปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกับสุขภาพจิตและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของพวกเขา เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และจะกระทบกับการกินอาหารและการออกกำลังกายด้วย

ด็อกเตอร์เซมเลียนหวังว่า ผู้กำหนดนโยบายและผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทั้งหลายจะนำผลวิจัยนี้ไปใช้เป็นหลักฐานในการพิจารณาปรับปรุงสวัสดิการที่ดีขึ้น รวมถึงให้คำแนะนำด้านสุขภาพที่เหมาะสมกับเลสเบี้ยน เกย์และไบเซ็กชวลมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ด็อกเตอร์เซมเลียน กล่าวว่า จะต้องทำวิจัยขยายผล เพื่อทำความเข้าใจปัจจัยสำคัญที่ซ่อนอยู่ในความเชื่อมโยงระหว่างรสนิยมทางเพศกับดัชนีมวลกาย รวมถึงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการที่มีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐานในทุกคนหลากหลายทางเพศด้วย


ที่มา : Journal of Public Health, Daily Mail, Pink News