วันที่ 17 ก.ค. อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ส.ส. ชัยนาท และรองหัวหน้่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวจะมีการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อโหวตแข่งกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ว่า ตนไม่ได้ยินกระแสข่าวดังกล่าว และคิดว่าไม่มีความเป็นไปได้เรื่องนายกฯเสียงข้างน้อย 

ส่วนแนวทางการโหวตนายกฯ วันที่ 19 ก.ค.นี้แนวทางของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ต้องขอดูก่อนว่าจะมีการเสนอใครอย่างไร เพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งเรื่องดังกล่าวคาดว่าจะนำเข้าสู่การประชุมพรรคในวันพรุ่งนี้ (18ก.ค.)

เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ว.อ้างถึงการห้ามเสนอชื่อซ้ำ จะเป็นการขัดกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 41 ที่ห้ามเสนอญัตติซ้ำ อนุชา มองว่า ก็ต้องไปพูดคุยกันในสภาว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร โดยอำนาจตัดสินใจก็อยู่ที่สภาอยู่แล้ว ทั้งนี้ตนไม่สามารถมองได้ว่า พิธา จะเสนอชื่อได้กี่รอบ เพราะความเห็นไม่ได้อยู่ที่ตนเพียงคนเดียว

ส่วนมองว่าตอนนี้พรรคเพื่อไทย ควรมีบทบาทตั้งรัฐบาลแล้วหรือยัง อนุชา ระบุว่า เขาก็ต้องไปคุยกันในเรื่องความเหมาะสมเพื่อหาทางออก 

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยยังนำพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาล แต่เสียง ส.ว.มีจุดยืนชัดไม่เอาก้าวไกล จะทำให้มีปัญหาหรือไม่ อนุชา กล่าวว่า ก็ต้องไปว่ากันในวันโหวต ตนคงไม่สามารถไปบอกแทนใครได้

ส่วนถ้าเป็นชื่อ พิธา เหมือนเดิมพรรครวมไทยสร้างชาติ จะโหวตไม่เห็นด้วยเช่นเดิมหรือไม่ อนุชา ย้ำว่า ก็ต้องไปประชุมหารือที่พรรค เพราะเรื่องนี้ยังไม่ได้มีการเปิดเผยว่าจะเสนอใครบ้าง ซึ่งจะต้องเป็นเสียงส่วนรวมของพรรค

เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคก้าวไกลยังย้ำจุดยืนแก้ไข ม.112 จะทำให้เดินไปยากหรือไม่ อนุชา ระบุว่า “ผมว่ายากมาก บอกเลยว่ายากมาก”

เมื่อถามต่อว่า กรณีที่พรรคก้าวไกลยื่น ม.272 เพื่อตัดอำนาจส.ว.ในการโหวตนายกรัฐมนตรีจะผ่านหรือไม่ อนุชา กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องเป็นไปตามขั้นตอน การแก้รัฐธรรมนูญมีวิธีอยู่ ซึ่งจะผ่านแค่ไหนในอดีตก็เห็นอยู่

เมื่อถามย้ำว่า มันน่าจะยากใช่หรือไม่ อนุชา ย้ำว่า เดิมทีมันเป็นอย่างนั้น แต่จะเป็นอย่างไรก็ต้องว่ากันในสภา

ส่วนมองการที่พรรคก้าวไกลแก้เกมยกเลิกอำนาจ ส.ว.เพื่ออะไร อนุชา มองว่า เป็นเรื่องที่เขาคิดเขาทำ ซึ่งเป็นเรื่องแต่ละพรรคที่จะคิดทำ และทราบข่าวว่าพรรคเพื่อไทยก็ไม่รู้มาก่อนว่าจะเดินเกมอย่างนี้