ไม่พบผลการค้นหา
รับบรรยากาศ มารีญา เดินทางไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ที่สหรัฐอเมริกา ย้อนรอยความงามของตัวแทนสาวไทยในอดีต

กช้าวันที่ 8 พ.ย.2560 “มารีญา พูลเลิศลาภ” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 เดินทางออกจากไทยไปสหรัฐอเมริกาเพื่อร่วมประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2017  และนับเป็นพระกรุณาธิคุณสูงสุด เมื่อ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ฯ ทรงพระกรุณาประทานซองใส่พาสปอร์ตหนังลิซเซิร์ด (Lizard) ปักเลื่อม จากแบรนด์ Sirivannavari ให้กับเธอได้ใช้ในวันออกเดินทาง นอกจากนี้เสื้อผ้าที่เธอเธอสวมใส่ในวันนั้น ทั้งแจ็กเก็ต,กางเกง และรองเท้า ก็ยังเป็นของแบรนด์ Sirivannavari อีกด้วย

         พระกรุณาธิคุณที่ มารีญา ได้รับนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับนางงามชาวไทยทุกคน บนเส้นทางแห่งความปีตินี้ รวมแล้วมีนางงามอย่างน้อยสี่คนที่เคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณเช่นนี้ นั่นคือ “อาภัสรา” “จีรนันท์” “ภรณ์ทิพย์” และ “มารีญา”


“สมเด็จฯ” พระราชทานแบบทรงผม ให้ “อาภัสรา”​

         “อาภัสรา หงสกุล” คว้าตำแหน่งนางสาวไทยในปี 2507 ในระหว่างการเตรียมตัวไปประกวดนางงามจักรวาล ณ เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เธอได้รับพระมหากรุณาธิคุณสูงสุด เมื่อในเดือน กรกฎาคม ปี 2508 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ หม่อมหลวงกมลา สุขุม (พี่เลี้ยงของอาภัสรา) ซึ่งเป็นสุภาพสตรีผู้อยู่ในฐานะข้าราชบริพารในพระองค์เข้าเฝ้าฯ โดยให้ร่วมโต๊ะเสวยพระกระยาหารเที่ยง ระหว่างนั้นทรงรับสั่งถามถึงรายละเอียดต่างๆ ในการเตรียมตัวของอาภัสรา

         สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเลือกทรงผมสำหรับอาภัสราแต่งเข้าประกวด 3 แบบจากอัลบัมที่ทรงตัดเก็บไว้ ซึ่งเป็นแบบผมสำหรับแต่งกับชุดราตรีไทย ชุดไทยกลางวัน และชุดราตรีสากล

         พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งทรงประทับอยู่ใกล้ๆได้มีพระราชดำรัสแก่ หม่อมหลวงกมลา ว่า ให้อาภัสราทำตัวเรียบร้อยไว้ “ให้เรียบๆไว้ดีที่สุด”

         ในวันถัดมา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้มีพระราชเสาวนีย์ ให้หม่อมหลวงกมลา นำอาภัสราไปให้ “คุณแป๋ว” ช่างเกษาประจำพระองค์ แต่งผมให้ตามแบบที่ทรงเลือกไว้ทั้งสามแบบ

         ในค่ำคืนการตัดสินรอบสุดท้าย อาภัสราคว้าชัยชนะได้เป็นคนไทยคนแรกที่คว้าตำแหน่งนางงามจักรวาล เธอเกล้าผมดำสนิท ท่ามกลางนางงามที่มีสีบลอนด์และสีน้ำตาล

         งานของ “วิลลา” เสนอว่า ต้นทศวรรษ 2500 ทรงผมเกล้า “ถูกโยงให้เกี่ยวข้องกับเครื่องแต่งกายชุดไทยพระราชนิยมที่สามารถบ่งบอกอัตลักษณ์ชาติและความเป็นไทยได้ นักเสริมสวยออกแบบ ผมเกล้า ในลักษณะต่างๆ เพื่อให้รับกับชุดไทยและโอกาสในการสวมใส่ ชุดไทยพระราชนิยมจำนวน 5 ชุด ชุดไทยเรือนต้น ไทยจิตรลดา ไทยอมรินทร์ ไทยบรมพิมาน ไทยจักรี ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2503 จากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเนื่องจากพระองค์จะโดยเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐฯและยุโรปอย่างเป็นทางการ”

         หลังจากได้ตำแหน่งนางสาวไทยในปี 2507 รวมถึง การได้ตำแหน่งนางงามจักรวาลในปี 2508 อาภัสรา “กลายเป็นต้นแบบความงามคนสำคัญที่สร้างความสำคัญให้กับผมเกล้า” “ทรงผมเกล้าถูกยกระดับความนิยมยิ่งขึ้น”

         นางงามอีกคนที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณก่อนเดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลคือ “จีรนันท์ เศวตนันท์” นางสาวไทยปี 2508 ถัดจากอาภัสรา ก่อนเดินทาง เธอได้เข้าเฝ้า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อขอพระราชทานพรเป็นสิริมงคล “สมเด็จทรงแนะนำเรื่องการเดิน นั่ง และการถอนสายบัวแบบไทยด้วย และยังทรงแนะนำให้ทำผมแบบแสกกลางเกล้าสูงทุยไปข้างหลัง ให้แตกต่างกับทรงผมของอาภัสรา”

         [ข้อมูลในส่วน “อาภัสรา-จีรนันท์” ทั้งหมด ผู้เขียนคัดจาก “วิลลา วิลัยทอง” ,โรงเรียนเสริมสวยการตลาดความงามและ “ผมสวย” แบบนำสมัยในสังคมไทยยุค “พัฒนา”, ใน ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ(บก.).ความ(ไม่)เป็นสมัยใหม่: ความเปลี่ยนแปลงและย้อนแย้งของไทย. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์ศยาม,2560.]

         ยังมีข้อเขียนในพาดหัว “พระบารมีปกเกล้าฯ...นางสาวไทย ให้เป็น Miss Universe” เขียนข่าวว่า [อาภัสราผู้นี้มีนิคเนมว่า "ปุ๊ก" ศิษย์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ แห่งประเทศไทย ได้ครองมงกุฎนางงามจักรวาล…อาภัสรากล่าวว่า “ดิฉันเป็นหนี้พระบารมีของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยแท้ จึงได้รับความสำเร็จสูงเกียรติครั้งนี้ สมเด็จฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้า และมีพระกระแสรับสั่งให้ดิฉันเดินไปเดินมาให้ทอดพระเนตร และมั่นพระทัยว่า ดิฉันเดินได้สง่างาม ซ้ำยังมีพระกระแสรับสั่งต่อไปอีกว่า ให้ดิฉันเปลี่ยนทรงผมใหม่ จะได้ดูสวยงามขึ้น อาภัสรากล่าวเสริมว่า "สมเด็จฯ คงทรงพอพระทัยมากที่ดิฉันชิงมงกุฎมาได้" (ข้อมูลจาก นสพ. เดลิ สเก้ทช์)]

         ใน HELLO ฉบับพิเศษ Jewelry (ฉบับที่ 5/2010) ในคอลัม “อัญมณีแห่งความหลังของ “อาภัสรา หงสกุล” ยังเล่าถึง อัญมณีที่เธอเคยได้รับพระราชทานจากเจ้านายสองพระองค์

         เมื่อได้รับตำแหน่ง นางงามจักรวาล อาภัสราเดินทางกลับมาประเทศไทยราว 2 ครั้ง ในครั้งหลังนั้นเธอได้มีโอกาสเข้าเฝ้า สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และในคราวนั้น พระองค์ก็ได้ประทานจี้ทองคำฝังเพชรซีกให้ อาภัสราเป็นการส่วนพระองค์

         [“ท่านรับสั่งถามสั้นๆ ว่า ‘อาภัสรา เกิดวันที่เท่าไหร่’ แล้วก็ชวนคุยทั่วไปอะไรต่ออะไรอีกสั้นๆ ไม่รับสั่งอะไรมาก แต่ท่านทรงมีพระเมตตามาก แล้วท่านก็ทรงยินดีที่เราได้รับตำแหน่งกลับมา”]

         อีกหนที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ คือ ในงานพระราชทานน้ำสังข์ของ อาภัสรา กับ หม่อมราชวงศ์เกียรติคุณ กิติยากร ในคราวนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานเครื่องประดับให้กับอาภัสรา เป็นแหวนมรกตน้ำงามล้อมเพชร โดยพระราชทานให้ในวันแต่งงานของทั้งคู่ ทั้งยังทรงมีรับสั่งกับ อาภัสรา ผู้เป็นเจ้าสาวว่า “ทำชื่อเสียงให้ประเทศไทย” แล้วก็ทรงพระราชทานแหวนมรกตให้

           อาภัสรา เล่าความในใจว่า “วันนั้นรู้สึกปลาบปลื้มใจมากจริงๆ มากที่สุดแล้ว แม้ว่าในงานแต่งงานคืนนั้นจะยืนตลอด ก็ไม่เหนื่อยเลย ดีใจมากที่สุด รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แล้วก็ใส่แหวนทันทีเลยละค่ะ”

           หลังจากแต่งงาน อาภัสรายังได้มีโอกาสฟ้อนถวายอยู่บ่อยๆ ทั้งเซิ้งและฟ้อนเล็บ ในงานพระราชทานเลี้ยงพระราชอาคันตุกะ ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชทานจี้ทองคำลงยาสลักเป็นรูปพระสัญลักษณ์ประจำพระองค์ พระนามาภิไธยย่อ สก.เดินขอบด้วยเพชรให้กับอาภัสรา เป็นการ “ขอบใจผู้ที่มีส่วนร่วมในการถวายการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง”


         “สมเด็จฯ” รับสั่ง “ขอเป็นกำลังให้ปุ๋ย”

         “ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” คว้าตำแหน่งนางงามจักรวาลในปี 2531 ซึ่งถือเป็นคนไทยคนที่สองที่คว้ารางวัลสูงสุดนี้ เมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทย เธอได้รับพระมหากรุณาธิคุณสูงสุด โดยได้เข้าฝ้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสนี้ทรงมีรับสั่งกับปุ๋ยว่า "ได้ยินมาว่าเป็นนางงามจักรวาลเหนื่อยนะ เพราะต้องเดินทางไทั่วโลก ขอเป็นกำลังใจให้ปุ๋ย" ปุ๋ยเล่าความในใจว่า "มี you(ราชินี)เป็นกำลังใจที่สำคัญในการปฏิบัติหน้าที่" และก่อนกลับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานเข็มกลัดปีกแมลงทับให้เป็นที่ระลึกแก่ปุ๋ยด้วย

23517830_1654343134608788_4292514706726860191_n.jpg



           ในปี 2545  สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯประกอบพิธีสมรสพระราชทาน "น้ำสังข์ข้างที่" แก่ ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก อดีตนางงามจักรวาล และเฮอร์เบิร์ต ไซมอน ณ วังไกลกังวล หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อีกด้วย


“พระเจ้าหลานเธอฯ” ประทานชุด “มารีญา”

         นอกเหนือจาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ฯ ทรงพระกรุณาประทานซองใส่พาสปอร์ตจากแบรนด์ Sirivannavari ให้กับ มารีญาแล้ว ยังได้ทรงประทานชุด เพื่อให้มารีญา นำไปใช้ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ด้วย

         “ชุดประทานจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI เป็นชุดราตรีสีม่วง ตัดเย็บจากผ้าไหมมัดหมี่ผสมผสานกับผ้าไหมทอเส้นเดียวจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ใช้เทคนิคการร้อยและการปักลูกปัดแบบ Haute Couture จากประเทศฝรั่งเศส ปักโดยช่างปักฝีมือชั้นครูซึ่งเป็นทีมช่างปักของแบรนด์ “SIRIVANNAVARI” ชุดในคอลเลกชั่นทรงออกแบบพิเศษนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า สิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงพระกรุณาคัดสรรผ้าไหมจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เพื่อใช้ตัดเย็บในแต่ละชุดด้วยพระองค์เอง”

         มารีญา กล่าวด้วยว่า “ถือเป็นความภาคภูมิใจของมารีญาที่ได้สวมใส่ชุดของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ซึ่งมีความสวยงามมาก แสดงออกถึงความเป็นไทยและมีความเท่ เชื่อว่าต่างชาติจะต้องตื่นตากับชุดที่พระองค์หญิงทรงออกแบบประทานให้”


แรงบัลดาลใจจาก “ชุดสมเด็จฯ”

         ขณะที่ชุดราตรีอีกสองชุด คือจากแบรนด์ POEM และ ASAVA ก็ยังเลือกใช้วัตถุดิบจากราชสำนัก รวมถึงได้รับแรงบัลดาลใจจากชุดของ “สมเด็จฯ”

         ชุดราตรีผลงานการออกแบบ และตัดเย็บจาก POEM เป็นชุดที่ใช้ผ้าไหมมัดหมี่สีน้ำเงินจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ

         ชุดราตรีผลงานการออกแบบและตัดเย็บโดย ASAVA ได้แรงบันดาลใจมาจากฉลองพระองค์ชุดไทยสไบสองชาย ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ดัดแปลงให้มีความเป็นสากล ด้วยการใช้เนื้อผ้าและเทคนิคสมัยใหม่ ด้วยผ้ากำมะหยี่ silk velvet โทนสีน้ำเงินเข้ม ผสานกับการตกแต่งผ้าโปร่งบริเวณเคปด้านหลัง รวมถึงงานปักที่มีความละเอียดอ่อนด้วย เพชรสวารอฟสกี้ หลากสี โดยปักไล่สีและรูปทรงที่แตกต่างกัน

         ในปีที่แล้ว ASAVA รับหน้าที่ออกแบบชุดราตรีให้ “น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์” โดยเธอสวมใส่ชุดราตรีสีดำ ในรอบ 6 คนสุดท้าย ชุดนี้จุดเด่นอยู่ที่งานปักลายไทยทั้งชุด ผสมผสานระหว่าง แบบงานชุดฉลองพระองค์กับงานแบบตะวันตก นิค เวอร์ริออซ (NickVerreos) นักวิจารณ์แฟชั่นจากสหรัฐ ยกให้ชุดราตรีสีดำชุดนี้ เป็นชุดที่ดีที่สุดในค่ำคืนแห่งการประกวด ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า และได้คะแนนไปถึง 9.95 ซึ่งถือเป็นคะแนนสูงสุดในปีนั้น

มารีญา.jpg


         ในส่วนชุดประจำชาติ ชุด “เมขลาล่อแก้ว” ออกแบบโดย “ประภากาศ อังศุสิงห์” โดยได้รับแรงบันดาลใจจากนิทานพื้นบ้านเรื่อง “เมขลา-รามสูร” สำหรับประภากาศ เธอพึ่งฝากผลงานที่เป็นหมุดหมายชิ้นสำคัญไว้ คือ HOOK'S คอลเล็กชั่น Ayara in ๙ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยคอลเล็กชั่นนี้เป็นการเล่าพระราชประวัติ เรียงร้อยเรื่องราวผ่านเสื้อผ้าแบบต่างๆ เพื่อสื่อสารภายใต้นิยามของการทำความดีเพื่อพ่อหลวง ตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ รวมถึงพระราชกรณียกิจต่างๆ ไปจนถึงเหตุการณ์สวรรคต โชว์ของเธอสร้างความประทับใจ จนผู้ชมในฮอลล์หลั่งน้ำตาด้วยความปลาบปลื้มใจ

         เหล่านี้คือ พระมหากรุณาธิคุณ และพระกรุณาธิคุณจากเจ้านาย ถึง “อาภัสรา” “จีรนันท์” “ภรณ์ทิพย์” และ “มารีญา”


         ร่วมเป็นกำลังให้ มารีญา กันได้ ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 โดยรอบตัดสินจะจัดขึ้น ณ แพลเน็ท ฮอลลีวูด เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2560 ตรงกับวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2560 (ตามเวลาประเทศไทย) สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ถ่ายทอดการประกวด ทางช่อง 3SD ช่อง 28 เวลา 07.00 – 10.00 น. แพร่ภาพอีกครั้งทางช่อง 3 ออริจินอลและ 3 HD ช่อง 33 เวลา 23.15 น. หลังรายการข่าว 3 มิติ