จากกรณีนายสนธิญา สวัสดี ประธานสมาพันธ์ประชาชนตรวจสิบรัฐไทย (สปท.) เข้ายื่นคำร้องต่อนายศุภชัย สมเจริญ ประธารคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อขอให้ทบทวนการจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ กรณีผู้ร่วมก่อตั้งได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมีลักษณะต้องห้ามของข้อบังคับมาตรา 14 ที่ระบุว่าต้องไม่มีลักษณะอาจก่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างชนในชาติ
ล่าสุด ผศ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยยืนยันว่าการผลักดันการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 เป็นการแก้ไขที่จะทำให้ไม่เกิิดกรณีมีบุคคลนำมาตรา 112 มาใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้ง ป้องกันไม่ให้บุคคลใดแอบอ้างพระมหากษัตริย์มาใช้ทำลายกัน ทั้งนี้เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่อย่างมั่นคง อย่างทรงพระเกียรติยศ ทันสมัย และสอดคล้องกับประชาธิปไตย ขณะเดียวกันในปัจจุบันจะเห็นว่าหน่วยงานของรัฐมีการปรับตัว เช่น การกำหนดให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาสั่งฟ้องคดีความผิดตามมาตรา 112 การปล่อยตัวชั่วคราวผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยในความผิดตามมาตรา 112 การยกฟ้องคดีความผิดตามมาตรา 112 ในบางกรณี
ในส่วนการรณรงค์แก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ปิยบุตร เน้นย้ำว่าเป็นการกระทำและความเห็นส่วนตน ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ และไม่ใช่นโยบาย และไม่ใช่คำประกาศอุดมการณ์ของพรรค ขณะที่การนำความคิดเห็นของตนว่าเป็นความคิดพรรคอนาคตใหม่ ย่อมไม่เป็นธรรมต่อพรรคอนาคตใหม่ พร้อมยืนยันว่าจะไม่นำเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาเกี่ยวข้องกับพรรค และไม่นำไปผลักดันในพรรค
สำหรับการตั้งพรรคอนาคตใหม่นั้น ปิยบุตร ระบุเพิ่มเติมว่าเป็นการเห็นร่วมกันเพื่อมุ่งเปลี่ยนแปลงสังคมไทย ทั้งทางสังคมและการเมือง ล้วนแต่เป็นความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง และอยากเห็นประเทศไทยออกจากวิกฤติความขัดแย้งและวงจรรัฐประหารจึงขอความกรุณาบุคคลที่มีความคิดแบบอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ได้ใช้สติและปัญญาตรีกตรองอย่างมีเหตุมีผล ซึ่งการขัดขวางการตั้งพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้กระทบเพียงผู้ร่วมก่อตั้งพรรค แต่มันคือการทำลายความหวังของประชาชนผู้ใฝ่ฝันถึงอนาคตใหม่ด้วย
อ่านเพิ่มเติม