ความคืบหน้าหลังจากศาล จ.ขอนแก่น อ่านคำพิพากษาในคดีร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม โดยมีคำสั่ง จำคุกจำเลยที่ 1 น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว และ จำเลยที่ 2 น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น คนละ 34 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 3 น.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ หรือเบนซ์ จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา จำเลยที่ 4 นายวศิน นามพรม รวม 23 ปี 4 เดือน 20 วัน และ จำเลยที่ 5 น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ รวม 33 ปี 9 เดือน ไปเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายนพดล สีดาทัน ทนายความฝ่ายครอบครัวของน้องแอ๋ม กล่าวว่า ครอบครัวน้องแอ๋มจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลภายใน 30 วัน เนื่องจากครอบครัวเห็นว่า การกระทำของคนที่ฆ่าน้องแอ๋มนั้นไม่ได้พลั้งมือ แต่เป็นความตั้งใจและมีการวางแผนมาอย่างดี มีการหลอกล่อน้องแอ๋มออกมา และถ้าไม่มีการวางแผนหรือคิดร้ายกับน้องแอ๋ม ทำไมถึงต้องหลบซ่อนตัว จึงได้ยื่นฟ้องในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ, ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว ทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร มีเพียง น.ส.เบนซ์ ถูกตั้งข้อหารับของโจร เพียงข้อหาเดียว
ทนายความฝ่ายครอบครัวของน้องแอ๋ม กล่าวอีกว่า เพิ่งทราบว่า น้องแอ๋มถูกกล่าวหา ว่าด่าบุพการีของฝ่ายจำเลยที่ 1 ว่าเป็นโสเภณี ทำให้จำเลยที่ 1 โกรธจึงมีการต่อสู้กันในรถยนต์ จนน้องแอ๋มก็เสียชีวิต และมีการหั่นศพในเวลาต่อมา ซึ่งคำพูดที่ยกมากล่าวอ้าง ใครๆ ก็พูดได้ เพราะน้องแอ๋มตายไปแล้วไม่มีโอกาสมานั่งแก้ตัว และคำพูดนี้มีผลต่อการตัดสินในคดีอาญาที่ลงโทษจำเลยน้อยกว่าโทษจำคุกตลอดชีวิต จึงมีการปรึกษากันและจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าวภายใน 30 วัน เพราะที่ผ่านมาได้ยื่นฟ้องในมาตรา 289 ตามประมวลกฎหมายอาญา ข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรอง แต่พิจารณาโทษตามมาตรา 288 ข้อหาร่วมกันฆ่าโดยเจตนา จึงจะยื่นอุทธรณ์
ทั้งนี้ ได้ขอคัดคำสั่งศาลแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาในการคัดคำสั่งสักพัก เพราะขณะนี้ยังเป็นร่างคำพิพากษา ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบอย่างละเอียด เมื่อคัดคำสั่งศาลเสร็จก็จะเขียนคำร้องยื่นอุทธรณ์ต่อศาลตามขั้นตอน
อ่านเพิ่มเติม