นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เคยพิพากษาตัดสิทธิผู้สมัครส.ส.กรณีถือหุ้นสื่อ โดยคำพิพากษาดังกล่าวต้องนำมาเป็นบรรทัดฐานต่อไปหรือไม่ว่า โดยปกติคำวินิจฉัยของศาลย่อมผูกพันและต้องถือปฏิบัติตามนั้น เมื่อมีคดีความเกิดขึ้นศาลก็มักยึดถือตามที่เคยมีคำวินิจฉัยไว้ แต่กรณีที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่มีผู้ไปร้องกกต.มิใช่เรื่องที่มีคดีขึ้นสู่ศาล เป็นเรื่องที่มีผู้ร้องโดยหยิบยกคำพิพากษาของศาลเป็นข้ออ้าง และยื่นร้องต่อกกต. ปัญหาจึงอยู่ที่ว่ากกต.จะนำเรื่องเหล่านั้นมาสู่การวินิจฉัยหรือไม่ ถ้านำมาสู่การวินิจฉัยกกต.ก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงที่ต้องยึดถือแนวทางตามคำวินิจฉัยของศาล เว้นแต่กกต.ไม่หยิบยกเรื่องที่มีการร้องมาวินิจฉัย ซึ่งต้องตอบคำถามว่าเหตุใดจึงไม่ทำ  

ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินัจฉัยคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ในวันที่ 8 พ.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่กกต.จะประกาศผลส.ส.บัญชีรายชื่อ กังวลว่าจะนำไปสู่เดทล็อกหรือไม่นั้น นายชูศักดิ์กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ากกต.ยังมีเวลาพิจารณา กกต.คงจะรอฟังคำวินิจฉัยของศาลก่อน คงไม่หน้าผลีหลามตัดสินใจไปก่อนโดยไม่ต้องรอคำวินิจฉัยออกมา และวันที่ 9 พ.ค.ยังมีเวลาในการประกาศส.ส.บัญชีรายชื่อ เรื่องนี้คงไม่น่าจะนำไปสู่เดทล็อก