ไม่พบผลการค้นหา
วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศให้การรับรองอย่างเป็นทางการ ในการอพยพพลเรือนออกนอกพื้นที่บางส่วนของเคอร์ซอน แผ่นดินทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งรัสเซียยึดครองไปจากยูเครน ในขณะที่กองกำลังของยูเครนกำลังรุกคืบยึดคืนพื้นที่ที่เคยถูกรัสเซียยึดไปมากขึ้นเรื่อยๆ

ปูตินระบุว่า พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อันตรายควรออกจากพื้นที่ เนื่องจาก “พลเรือนไม่ควรต้องทนทุกข์ทรมาน” โดยปัจจุบันนี้ มีรายงานว่าพลเรือนอย่างน้อย 70,000 ราย ที่ถูกสั่งเคลื่อนย้ายที่อยู่ออกจากเคอร์ซอน ซึ่งเป็นเมืองหลักเมืองเดียวที่ถูกรัสเซียยึดไป นับตั้งแต่กองทัพของปูตินเข้ารุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

ปูตินกล่าวอีกว่า พลเรือนที่เสี่ยงต่อการถูกทิ้งระเบิดและการโจมตีควรถูก “นำตัวออก” คำพูดดังกล่าวของประธานาธิบดีรัสเซียเกิดขึ้นระหว่างวันหยุดของวันเอกภาพ ณ จัตุรัสแดงของมอสโก ในขณะที่ทางการยูเครนกล่าวหาว่ารัสเซียใช้กำลังของตน บังคับให้พลเรือนยูเครนถูกส่งตัวออกนอกประเทศ ซึ่งถือเป็นความผิดฐานอาชญากรรมสงคราม แม้ว่ารัสเซียจะปฏิเสธรายงานการอพยพประชาชนหลายหมื่นรายดังกล่าว

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา รัสเซียใช้การโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนอย่างรุนแรง ต่อโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนทั่วยูเครน ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายและความเสียหายอย่างหนัก การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางพลเรือนยังส่งผลให้ยูเครนขาดการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าและความอบอุ่น ทั้งนี้ การออกมารับรองการอพยพประชาชนของปูติน เกิดขึ้นหลังจากรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (3 พ.ย.) ว่า ทหารรัสเซียถอนทัพออกจากเคอร์ซอนด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเป็นการถอนตัวออกจากพื้นที่ที่ยึดมาจากยูเครนครั้งใหญ่

คิริลล์ สเตรมูซอฟ เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตังโดยรัสเซียในเคอร์ซอน บอกกับสื่อรัสเซียว่า ทางการรัสเซีย “มีแนวโน้ม” ที่จะถอนทหารออกจากพื้นที่ ในขณะที่ทางการยูเครนยังคงระมัดระวัง โดยมีการประกาศเตือนว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซีย อาจเป็นกับดักเพื่อล่อให้ทหารของตนเข้าไปในพื้นที่อันตราย อย่างไรก็ดี รัสเซียระบุให้ประชาชนอพยพออกนอกพื้นที่เคอร์ซอนครั้งแรก เมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้ว เนื่องจากกองทัพรัสเซียเปลี่ยนกระบวนรบจากการรุกราน ไปเป็นกลยุทธการป้องกันแทนหลังยูเครนรุกคืนพื้นที่หนัก

ในเวลาต่อมา ผู้บัญชาการทหารของรัสเซียกล่าวว่า พวกตนได้เสร็จสิ้นการอพยพชาวเมืองเคอร์ซอน ก่อนการสู้รบจากทางยูเครนที่รุกคืบเข้ามาตามที่ตนคาดการณ์เอาไว้ ทั้งนี้ รัสเซียอ้างว่าภูมิภาคเคอร์ซอนและอีก 3 ภูมิภาคของยูเครนเป็นอาณาเขตของตนเอง แม้ว่ากองทัพรัสเซียจะไม่สามารถควบคุมภูมิภาคใดของยูเครนได้อย่างเต็มรูปแบบ ก่อนที่รัสเซียจะเร่งจัด “ประชามติ” เพื่อการผนวก 4 ดินแดนยูเครนเข้าเป็นของตน อย่างไรก็ดี ความพยายามดังกล่าวของรัสเซียถูกประณามจากประชาคมโลก ทั้งนี้ รัสเซียยังได้ผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครนในปี 2557 เข้าเป็นของตนไปก่อนหน้านี้อีกด้วย

ในอีกรายงานความคืบหน้าหนึ่ง ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันศุกร์ (4 พ.ย.) ที่จัตุรัสแดง ปูตินยังกล่าวด้วยว่า ทหารเกณฑ์ 318,000 นาย ได้ลงนามเพื่อเข้าปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างการระดมพลแล้ว โดยการระดมพลของรัสเซียที่ประกาศไปก่อนหน้านี้เสร็จสิ้นลงแล้ว และเกินเป้าหมายการเกณฑ์ทหาร 300,000 นาย ปูตินยังกล่าวอีกว่าในจำนวนนี้มี 49,000 นาย ที่มีเข้าร่วมการสู้รบอย่างแข็งขันในยูเครน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ได้รับการยืนยันแต่อย่างใด


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-europe-63523043?fbclid=IwAR00Uhlp35ESGvhqzdYtqYkoerPzUTVTJtwIReHyt8DX8vREdtAG0a6gbIk