นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่ จ.สกลนคร และ จ.มหาสารคาม ช่วยผู้สมัครหาเสียงในวันที่ 24-25 ก.พ. 2562 นำโดย นายอารี ไกรนรา, ดร.วิโชติ วัณโณ รองหัวหน้าพรรค และคณะผู้บริหาร และเริ่มต้นจุดแรกด้วยการช่วยนางสาววนิดา พรหมชาติ ผู้สมัครพรรคเพื่อชาติ เขต 6 หาเสียงที่ อบต.เก่า อำเภออากาศอำนวย จ.สกลนคร
นายจตุพร กล่าวว่า "ณ วันนี้ ต่างฝ่ายต่างก็รณรงค์หาเสียง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ตอนแรกก็เดินคารวะแผ่นดิน ตอนหลังก็มาเลี้ยวใส่ ว่าเป็นตายอย่างไรก็จะไม่ร่วมกับ 'พรรคตระกูลเพื่อ' แล้วนายสุเทพไปถามพรรคตระกูลเพื่อหรือยัง ว่าเขาอยากร่วมกับนายสุเทพหรือเปล่า ประกาศชัดเจนว่าในซีกนู้นต้องไปเลือกเขา และแต่ละพรรคก็ประกาศจองพื้นที่นั่งในสภากันเต็มไปหมด" เมื่อตนหันกลับมาดูพรรคเพื่อชาติ ก็บอกได้อย่างเดียวว่า เหลือพี่น้องเสื้อแดงเท่านั้น ที่ร่วมเป็นร่วมตาย ที่จะพาเพื่อชาติเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรให้ได้
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อวันก่อนตนได้ท้านายสุเทพมาดีเบต แต่นายสุเทพก็ได้กล่าวว่า ตนไม่มีความสำคัญ ซึ่งตนก็ไม่มีปัญหา ตนยังเห็นว่านายสุเทพมีความสำคัญที่จะต้องนำมาจัดการเสีย เพราะเป็นกลไกสำคัญ ที่นำมาสู่ประเทศในวันนี้ แล้วการที่นายสุเทพให้ลูกน้องมาบอกว่า เล่าปี่ไม่ไปดีเบตกับคนเลี้ยงช้าง สงสัยคนพูดอยากเป็นขงเบ้งขึ้นมา ตนก็บอกว่าตนเป็นคนเลี้ยงช้างก็ได้ ไม่อยากเป็นเล่าปี่เพราะไม่อยากบ้าเหมือนพวกมัน
เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น ในระบอบประชาธิปไตย วันที่ 24 มี.ค. 2562 ไม่ว่าคุณจะเป็นพลเอก พลทหารหรือประชาชน ในวันนั้นเรามีหนึ่งเสียงเท่ากัน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. สามารถแต่งตั้งวุฒิสภา 250 คน เว้น 6 คน ที่มาโดยตำแหน่ง แต่เมื่อเข้าคูหาเลือกตั้ง ทุกคนก็มีสิทธิเท่ากับตน คือ 1 เสียงเท่ากัน วันนี้พวกเขาก็รู้ว่า ถ้าออกมาโต้กันนั้น จะถูกแฉกันว่าเหตุอะไรบ้านเมืองเดินมาถึงจุดนี้ ที่ไม่ว่าไปที่ไหนก็มีเสียงแห่งความเดือดร้อนส่งออกมา ทุกคนต่างก็มีความหวังกันว่า วันเลือกตั้งนี้จะได้จัดการเผด็จการออกไป แล้วจะได้นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง มาแก้ไขราคาสินค้าเกษตรให้กลับมาขายได้กำไรเช่นเคย
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี พล.อ.ประยุทธ์ได้รับโอกาสอย่างครบถ้วนแล้ว เห็นกันแล้วว่ามีศักยภาพอย่างไร วันนี้เราไม่ต้องตัดสินใจอะไรกันมาก ถ้า 5 ปีที่ผ่านมา พี่น้องอยู่ดีมีสุข ขายข้าวได้ราคาดี มัน อ้อย ปาล์ม ราคาดี พี่น้องก็เลือกพรรคพลังประชารัฐ แต่ถ้า 5 ปีนี้ขายข้าวก็ขาดทุน อ้อยขาดทุน มันขาดทุน พี่น้องต้องตัดสินใจ ในวันนี้วิธีการจัดการเผด็จการที่ดีที่สุด เราไม่ต้องออกไปรบกับรถถัง แต่เราไปเข้าคูหาเลือกตั้ง แล้วส่งสัญญาณบอกกับเผด็จการว่า ทีหลังอย่ามายึดอำนาจ ยึดอำนาจแล้วอย่ามาคิดสืบทอดอำนาจต่อ ซึ่งพี่น้องจะทำได้และเป็นวิธีเดียวเท่านั้น คือ เข้าคูหาใช้ปากกาเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ช่วงบ่าย พรรคเพื่อชาติสัญจร จะเดินทางไป ณ วัดดอนสวรรค์ ต.แพพ อ.คำตากล้า จ.สกลนคร ช่วงเย็น เดินพบปะประชาชน ตลาดคำตากล้า และชุมชนเทศบาลคำตากล้า ช่วงหัวค่ำ มีพิธีบายศรีสู่ขวัญ และเสวนาการเมืองรอบกองไฟกับแกนนำ 200 คน ณ บ้านนาเมืองใหญ่ หมู่ 8 ต.อากาศอำนวย อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร
ส่วนวันที่ 25 ก.พ. จะเริ่มต้นช่วงเช้า ด้วยการช่วยผู้สมัคร พรรคเพื่อชาติ เขต 2 นายเฉลิมชัย อุฬารกุล ณ วัดป่าวีรพล อ.เต่างอย จ.สกลนคร จากนั้น ช่วยผู้สมัคร เขต 5 นายขจรศักดิ์ เบ็ญชัย ณ ลานตรงข้ามร้านอาหารน้องรัก ริมถนนสายวานรนิวาส – พังโคน อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ต่อด้วยช่วยผู้สมัคร เขต 4 นายวิกาล โสเพ็ง ณ สนามกีฬาบ้านโนนรัล ต.บงใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
จากนั้น เดินทางต่อมาที่จังหวัดมหาสารคาม ช่วยผู้สมัคร เขต 5 นายขุนเดช วรกานต์ ประภาพรพันธ์ ณ ตลาดสด อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม สุดท้าย สิ้นสุดที่ ช่วยผู้สมัคร เขต 4 นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ณ ตลาดนัดคลองถม ใกล้บิ๊กซี อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม