การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (11 ก.ค.) ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นวันที่สอง หลังจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างข้อบังคับฯ ด้วยมติ 461 เสียง แต่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภาเพื่อพิจารณาวาระที่ 2 - 3 ทันที ขณะที่นายเทอดพงษ์ ไชยนันท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งสอดรับกับแนวทางของนายชวน ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยประท้วงนายชวน อย่างหนักที่ยื้อลงมติตั้งกรรมาธิการเต็มสภาเพื่อพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่นายชวนจะสั่งปิดการประชุมโดยระบุจะขอหารือกับ นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับฯก่อน
'ชวน' ชี้ กมธ.เต็มสภาฯ ต้องยื้อประชุม
เมื่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เข้าสู่การพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นพ.ชลน่าน ได้ทวงถามผลหารือ โดยนายชวน ชี้แจงว่า ประธานกรรมาธิการได้ให้ความเห็นว่าหากตั้งกรรมาธิการวิสามัญจะพิจารณาในช่วงวันที่ 22 - 24 ก.ค. แต่มีการแจ้งภายในว่ารัฐบาลจะขอแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 24 ก.ค.นี้ หลังถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับหน้าที่ ดังนั้น การพิจารณาข้อบังคับการประชุมสภาฯอาจออกมาได้ในช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้ แต่หากตั้งกรรมาธิการเต็มสภาก็ไม่สามารถพิจารณาเสร็จได้ในวันนี้แต่อาจจะต้องเปิดประชุมสภาฯ ในวันที่ 18 ก.ค.ซึ่งติดเทศกาลเข้าพรรษา ปกติเมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่ สภาต้องหยุดการประชุมเพื่อรอให้ ครม.เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อน จึงจะกลับมาประชุมสภาฯได้
ฝ่ายค้าน ชี้จุด 'ชวน' เอียง โน้มน้าวปธ.ยกร่างฯ
การชี้แจงของนายชวน ทำให้ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านใช้สิทธิประท้วงอย่างหนัก โดย นพ.ชลน่าน ระบุว่า มีงบประมาณของคณะกรรมาธิการ จำนวน 14 ล้านบาทต่อคณะ ถ้าไม่มีกรรมาธิการไปใช้ ถ้าตั้งไม่ทันในงบประมาณปีนี้ งบฯก้อนนี้จะไม่ถูกใช้จะทำให้เป็นงบฯ เหลือจ่าย ทำให้เป็นอำนาจของประธานสภาฯ ที่ต้องเปลี่ยนไปใช้หมวดอื่น ไม่ได้บอกว่าไปทุจริตหรือใช้ในทางไม่ชอบแต่เสียดายว่างบประมาณจะไม่ถูกใช้กับกรรมาธิการ
"ท่านจะอาศัยอำนาจประธานโน้มน้าวประธานกรรมาธิการยกร่างฯ หลังลงมติรับหลักการทั้งที่ประธานกรรมาธิการยกร่างฯ ได้พ้นสภาพไปแล้ว ซึ่งไม่ชอบจริงๆ ทุกอย่างเป็นมติสภาฯ สิ่งที่เสนอต่างฝ่ายมีเหตุมีผล สภาแห่งนี้จะเป็นผู้วินิจฉัย ประธานสภาฯเหมือนผู้ใหญ่ใจดีสอนลุกสอนหลาน ท่านกำลังทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 119 ประธานสภาฯ ต้องทำหน้าที่เป็นกลาง การทำหน้าที่ของท่านจนถึงวันนี้เสียเวลาไป 3 ชั่วโมง ถ้าเห็นว่าผมเสนอญัตติถูกต้องมีการตั้งกรรมาธกิารเต็มสภาก็แปรญัตติได้ แต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นเพราะความเป็นประธานใจดี ความเป็นประธานที่อยากเห็นสภาแห่งนี้เป็นอย่างที่ท่านเห็น แต่ละเมิดสิทธิสมาชิกตัดสินใจ ผมอยากให้วิธีการนี้เป็นวิธีการสุดท้ายของการประชุมสภาฯ เมื่อรับญัตติแล้วต้องทำหน้าที่อย่างเดียว" นพ.ชลน่าน ระบุ
นพ.ชลน่าน ระบุว่า "ถ้าเกิดแบบนี้ต่อไปอีกจะทำงบประมาณของคณะกรรมาธิการแต่ละคนมี 14 ล้านต่อคณะ ถ้าตั้งไม่ทันเป็นงบเหลือจ่ายไปใช้จ่ายอย่างอื่น เขาตั้งข้อสังเกต แต่ผมไม่เชื่ออย่างนั้น เพราะผมเชื่อมั่นความบริสุทธิ์ของท่าน ผมรักและเคารพท่าน ขอให้ท่านถ้าไม่เปิดให้ ส.ส.อภิปราย แต่การปิดอภิปรายต้องเป็นมติของสภาด้วย หรือถ้าจะปิดอภิปราย สิ่งที่พวกเราทำตามระบบรัฐสภา เมื่อมีมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านและการหารือของวิปก็เสนอไป ถ้าวันนี้ลงมติแพ้แน่นอน แต่ถ้าลงมติเมื่อคืนชนะแน่นอน"
ด้าน นายคารม พลพรกลาง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ชี้ว่านายชวน วางตัวไม่เป็นกลาง การปฏิบัติหน้าที่ของนายชวนแม้จะเชิงแนะนำ ทั้งที่ฝ่ายค้านและรัฐบาลมีคณะกรรมการประสานงาน ซึ่งตนไม่สบายใจ ทั้งที่สถานะนายชวน ไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำให้เหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 10 ก.ค. มาจนถึงวันนี้
'ชวน' แจงไร้ผลประโยชน์ปมใช้งบฯ 14 ล้านไม่ทัน
นายชวน ชี้แจงว่า ตนไม่มีผลประโยชน์เรื่องงบประมาณ ตนมาจากระบบเลือกตั้งไม่ซื้อเสียง ที่ทำไปทั้งหมดเพื่อประโยชน์ของสภา ตนมีความเป็นกลาง คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ส่วนกรณีที่ปรึกษากับนายวิเชียร เพราะเป็นประธานกรรมาธิการฯตั้งแต่ต้น ถ้าใช้วิธีการตั้งกรรมาธิการเต็มสภาจะใช้เวลาเท่าไร ซึ่งไม่มีเรื่องอื่น ทั้งนี้ เสียดายว่าเจตนาดีของตนถูกมองในทางร้าย ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ในเรื่องเงินเรื่องทอง และไม่รู้เรื่องที่พูดถึงตามที่ นพ.ชลน่าน กล่าวหา
จากนั้น ที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นด้วยให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ด้วยมติ 242 ต่อ 232 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง โดยตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 39 คน แปรญัตติ 7 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง