ไม่พบผลการค้นหา
'ราเมศ รัตนะเชวง' สอน 'เพื่อไทย' ถ้าพรรคที่เป็น ปชต. อย่าให้ใครมาสั่งการคนเดียว ย้ำการนำนโยบายพรรคไปขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติเพื่อประชาชน คือสาระสำคัญ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาว่ามีบุคคลภายนอกแทรกแซง ก้าวก่าย ครอบงำพรรคประชาธิปัตย์นั้นว่า พรรคเพื่อไทยไม่ควรมาก้าวก่ายการดำเนินกิจการของพรรคประชาธิปัตย์ การใส่ร้ายพรรคการเมืองอื่นนั้นให้พึงระวัง พรรคประชาธิปัตย์มีกฎเกณฑ์กติกาการทำงานชัดเจน มติที่ประชุมพรรคได้มอบให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯ ไปประสานกับพรรคแกนนำ มีอำนาจในการดำเนินการ ดังนั้นจึงไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เมื่อผลออกมาเป็นอย่างไรนั้น ก็จะต้องนำผลดังกล่าวมารายงานพรรคฯ เพื่อเข้าสู่กระบวนการขั้นตอนของที่ประชุมร่วมกันระหว่างกรรมการบริหาร (กก.บห.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 

นายราเมศกล่าวว่า หลักการพูดคุยคือการยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งที่จะได้นำนโยบายไปปฏิบัติให้เกิดผลกับประชาชนมากที่สุด ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นคือสาระสำคัญที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย  พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่มีจุดยืนในเรื่องนี้ชัดเจนที่สุด

"พรรคเพื่อไทยเคยชินกับการก้าวก่ายแทรกแซงสั่งการจากบุคคลภายนอก ใครเป็นคนสั่งการทราบกันดี ประชาธิปไตยต้องเริ่มต้นจากภายในพรรค ถ้าพรรคการเมืองใดมีคนเพียงคนเดียวมาสั่งการก็อย่ามาอ้างว่าเป็นพรรคที่เป็นประชาธิปไตยเลย" นายราเมศกล่าว

ส่วนเรื่องการนำนโยบายพรรคไปขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติเพื่อประชาชน นั้น นายราเมศ กล่าวว่า การประสานงานในรายละเอียดกับพรรคแกนนำ เลขาธิการพรรคฯ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยืนยันต่อที่ประชุมร่วมกัน ระหว่าง กก.บห. และ ส.ส. เมื่อครั้งก่อนว่าเสร็จสิ้นและทุกอย่างเป็นข้อยุติแล้ว ก็ต้องถือว่าการตอบรับทั้ง 3 ข้อ เป็นสาระสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ

พรรคฯ ยืนยันว่านโยบายต่างๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่อง "แก้จนสร้างคนสร้างชาติ" โดยเฉพาะนโยบาย "ประกันรายได้เกษตรกร" ก็รับตรงกันว่าจะมีการกำหนดไว้เป็นนโยบายของรัฐบาลซึ่งแน่นอนว่าเมื่อพรรคฯ ต้องการนำนโยบายไปขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงแล้ว ก็ย่อมมีความจำเป็นที่พรรคฯ จะต้องเป็นผู้ขับเคลื่อนเพื่อให้สำเร็จตามแนวนโยบายดังกล่าว 

เมื่อถามว่าจะมีการล้มการพูดคุยที่ได้คุยตกลงไว้หรือไม่นั้น นายราเมศเชื่อว่าการตกลงเรื่องร่วมรัฐบาลเป็นข้อตกลงที่มีหลักสาระสำคัญคือจะต้องเข้าไปเพื่อนำนโยบายของพรรคฯ ไปทำประโยชน์เพื่อประชาชน เพราะนั่นคือพันธสัญญาที่ทุกฝ่ายจะต้องยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :