วันที่ 2 พ.ย. 2565 นพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ตามที่สื่อหลายสำนักรายงานว่า เทพมนตรี ลิมปพยอม โพสต์เฟซบุ๊กว่า “Agree minutes ฉบับพ.ศ.2546 ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ไทยเสียพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารและโบราณสถานปราสาทพระวิหาร ฝีมือ โทนี่ วู้ดซัม หรือ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล้วนๆ ที่ทำให้ไทยเสียดินแดน ลุงตู่ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม) ก็หยิบเรื่องนี้มาต่อกรเลย”
โดย นพดล ระบุว่า ตนเห็นว่าเนื้อหาโพสต์ดังกล่าวเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จที่ไม่มีความจริงปนเลย เป็นการนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเป็นการใส่ร้ายหมิ่นประมาทบุคคลอื่น ตนขอชี้แจงว่า
1. พี่โทนี่ที่ตามที่ เทพมนตรีกล่าวหาไม่ได้เป็นผู้ทำให้ไทยเสียดินแดน หรือทำให้ไทยเสียพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารและโบราณสถานปราสาทพระวิหาร ข้อเท็จจริงคือศาลโลกตัดสินในปี 2505 สรุปความว่าปราสาทพระวิหารตั้งอยู่บนดินแดนกัมพูชา ซึ่งก็คือเป็นของกัมพูชาตั้งแต่ 60 ปีที่แล้ว ตอนนั้นพี่โทนี่อายุ เพียง 13 ขวบ
2. กรุณาอย่านำประเด็นปราสาทพระวิหารมาเล่นการเมืองอย่างที่ทำกันในอดีตเลย ประเทศเสียหายมามากจากการใส่ร้ายด้วยความเท็จทางการเมือง ตนเคยถูกใส่ร้ายเรื่องนี้แต่อโหสิกรรมไปแล้ว และเรื่องก็ไปถึงศาลโลกและมีการพิจารณาในกระบวนการยุติธรรมของไทยแล้ว นอกจากนั้น คนที่หัวมีความรู้ หัวใจมีธรรม ก็ได้รู้ความจริงแล้วว่านักการเมืองในพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำให้เสียดินแดน แต่มีส่วนปกป้องดินแดน
“เราควรก้าวข้ามประเด็นเสียดินแดนปราสาทพระวิหารและมาช่วยกันทำดินแดนของไทยให้เจริญเดินหน้าดีกว่าครับ เรายังมีความท้าทายอีกมากที่ต้องแก้ไข การนำความเท็จมาใส่ร้ายกันไม่ได้แก้ปัญหาปากท้อง ทำให้คนไทยหายจน ลดความเหลื่อมล้ำ ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น หรือเกิดความสมานฉันท์ในชาติ สังคมไทยควรเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความจริง ไม่ควรเป็นสนามละเลงความเท็จ”