วันที่ 29 พ.ย. 2565 สิริน สงวนสิน ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 27 (ทวีวัฒนา, ตลิ่งชัน (เฉพาะแขวงตลิ่งชันและฉิมพลี), หนองแขม (ยกเว้นแขวงหนองแขม)) พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มีมติเห็นชอบ แนวทางขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ปีงบประมาณ 2566 โดยจะแยกรายวิชาประวัติศาสตร์ออกจากกลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เป็นรายวิชาพื้นฐาน โดยระบุว่า การแยกรายวิชาประวัติศาสตร์ออกมาต่างหากนั้น มีสาเหตุมาจากที่นายกรัฐมนตรีต้องการเห็นเยาวชนมีความรักชาติมากขึ้น จึงสั่งการให้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการไปดำเนินการออกประกาศฯแยกรายวิชาประวัติศาสตร์ออกมา เพื่อให้ง่ายต่อการกำหนดเนื้อหาความรักชาติที่ต้องการให้นักเรียนรับรู้ และตนได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเลขาธิการ กพฐ. ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ในทำนองที่ว่า การสอนวิชาประวัติศาสตร์แบบเดิมๆ นั้นใช้ไม่ได้แล้ว ต้องมาเรียนแบบใหม่ ครูต้องปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอนใหม่ให้สอดรับกับสิ่งที่รัฐต้องการ ยิ่งทำให้ตนคิดว่า เรากำลังอยู่ในยุคไทยรบพม่าอยู่หรือไม่ ที่ต้องมา Hard Sell ปลุกพลังชาตินิยมในแบบเรียนกันถึงขนาดนี้ และสิ่งที่กระทรวงศึกษากำลังคิดจะทำอยู่ เป็นการล้างสมองด้วยวาทกรรมชาตินิยมล้าหลังตามที่รัฐสั่งหรืออยากให้เป็น ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก และจะยิ่งทำให้การศึกษาไทยถอยหลังลงคลอง
สิริน กล่าวต่อว่า การเรียนรู้ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่ดีและควรทำ แต่หลักสูตรต้องออกแบบมาต้องให้สอดรับกับการค้นพบและข้อถกเถียงใหม่ ๆ ที่เป็นที่ยอมรับของนักประวัติศาสตร์หรือนักวิชาการทั่วไป ไม่ใช่มีแต่เรื่องใครรบกับใคร ใครดีกว่าใครหรือใครเลวกว่าใคร แต่ควรเป็นการทำความเข้าใจบริบททางสังคม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ กระบวนการคิดการตัดสินใจ และรูปแบบพลวัตทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย บนพื้นฐานของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีการอ้างอิงอย่างหนักแน่น หรือแม้กระทั่งเปิดให้มีการถกเถียงอย่างกว้างขวางบนพื้นฐานของเหตุผลเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนากระบวนการคิดของนักเรียนให้เป็นระบบ
“ตอนนี้โลกเราเปลี่ยนไปมาก เป็นโลก 5G ที่อุดมไปด้วยข้อมูลข่าวสาร Big Data ซึ่งเข้าถึงได้ง่าย รวดเร็ว และหลากหลาย เพราะฉะนั้นการจะใช้วิธีเดิม ๆ เพื่อปลูกฝังความคิดให้เด็กซ้ายหันขวาหันเหมือนแต่ก่อนคงแทบเป็นไปไม่ได้ พวกไดโนเสาร์เต่าล้านปีที่นั่งอยู่ในกระทรวงศึกษาก็ควรทราบถึงจุดนี้ และหากจะกลับไปทบทวนตอนนี้ก็ยังไม่สาย ก่อนที่จะกลายเป็นตัวตลกให้เด็ก ๆ ถอนหงอกเล่นเหมือนที่ผ่านมา ฝากไว้ให้คิดครับ” สิริน กล่าว