วันที่ 23 มิ.ย. เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางเข้าพรรคเพื่อร่วมประชุมด้านเศรษฐกิจ โดยกล่าวว่าวันนี้ จะมีการพูดคุยกัน 2-3 เรื่อง โดยเป็นเรื่องภายในและมาฟังคณะทำงานที่เขาวิเคราะห์การเลือกตั้งว่าเราทำดีหรือทำไม่ดี ว่าเราผิดพลาดตรงไหน ซึ่งช่วงเช้าตนติดภารกิจจึงเข้ามาประชุมช่วงบ่าย รวมถึงจะมาคุยเรื่องเศรษฐกิจ เพราะมีปัญหาเล็กน้อย ส่วนหลังจากนี้จะมีการลงพื้นที่ต่างจังหวัดอีกหรือไม่นั้น ต้องรอทางคณะทำงานจัดเตรียมมา โดยเรื่องของเอลนีโญ เอฟเฟค และเรื่องของการท่วมแล้งก็เป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งเราต้องให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่งต้องรีบบริหารจัดการทันที คิดว่าสัปดาห์หน้าคงต้องไปดูเรื่องธนาคารน้ำสักครั้ง 

เมื่อถามถึงความคืบหน้าของการรีแบรนด์พรรค เศรษฐา กล่าวว่า ไปได้ไกลแล้ว หากพร้อมแล้วจะเล่าให้ฟัง คงไม่เกิน 1-2 สัปดาห์นี้ 

ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลเหมือนจะล่าช้า ซึ่งอาจทำให้การแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจกับประชาชนล่าช้าตามไปด้วย เศรษฐา บอกว่าหากมีการล่าช้าไป ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะทำให้การลงทุนชะลอ นโยบายหลักๆ ที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจก็ถูกพักไป ซึ่งตนคิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ อย่างที่ตนเรียกร้องมาตลอดว่าอยากให้รีบจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ตนได้คุยกับพรรคพวกที่คุยในวงเศรษฐกิจทราบว่ายอดขายหลายยอดร่วง ซึ่งตนตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะตกไปเยอะ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่น่าเห็นใจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายนี้เราจะมีการพูดคุยกันว่าหากได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆ อะไรบ้างที่เราพร้อมที่จะเดินหน้าเลย เช่น การขึ้นค่าแรง ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเป็นรายได้พื้นฐานของประชาชนทุกคน แต่จะขึ้นเท่าไหร่อย่างไร ตนเชื่อว่าคณะทำงานทั้ง 2 พรรค ก็คงเป็นคนกำหนด โดยพรรคเพื่อไทย เราต้องเตรียมการเรื่องนี้ให้ดี แต่คณะทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลนั้นตนไม่ทราบรายละเอียด ทั้งนี้ตนเป็นห่วงพี่น้องประชาชน เรื่องปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องการเมืองเป็นเรื่องรอง แต่ทุกวันนี้มีแต่เรื่องการเมืองทั้งนั้น จึงขอเรียกกร้องให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว 

ส่วนกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาบางคน ออกมาระบุว่า ขณะนี้มีคนพยายามที่จะทำให้ฝ่ายที่แพ้กลับมาชนะ เศรษฐา นิ่งสักครู่ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “สั้นๆ นะครับ ผมชอบ ส.เสือ ที่สร้าง ไม่ชอบ ส.เสือ ที่เสี้ยม”

ถามต่อว่าการออกมาโพสต์ลักษณะเช่นนี้จะมีนัยที่เป็นอุปสรรคต่อการทำให้ได้นายกรัฐมนตรีช้าตามไปด้วยหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า “จุดยืนของผมชัดเจนครับ อยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพราะป็นห่วงพี่น้องประชาชนจริงๆ ครับ”

เมื่อถามย้ำว่ามองอย่างไรกับการที่มีความพยายามบอกว่า ส.ว. ที่พรรคก้าวไกล พยายามเจรจาด้วยเปลี่ยนใจจะไม่เลือก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เศรษฐา กล่าวว่า “ไม่ได้ยิน ไม่ทราบครับ แต่อยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว และอยากให้มีการโหวตให้ พิธา เป็นนายกฯ ครับ” 

ส่วนกรณีที่หากมีสมาชิกพรรคโหวตสวนมติในการเลือกประธานสภาฯ หรืออื่นๆ ทางพรรคมีข้อบังคับอย่างไรนั้น ตนไม่ทราบ และคิดว่าเราพูดเรื่องประธานสภาฯ กันเยอะแล้ว วันนี้จุดยืนของตนชัดเจน อยากให้มีการเลือกประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว เพื่อบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ วันนี้เศรษฐกิจบอบช้ำเยอะมาก ตนคิดว่าต้องพักเรื่องการเมืองไปก่อน เอาเรื่องประชาชนดีกว่า