วันที่ 6 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วม สภาผู้แทนราษฎร หรือวิป 3 ฝ่าย ในประเด็นการตกลงระยะเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งได้ข้อสรุปว่า การอภิปรายฯ จะมีทั้งหมด 4 วัน โดยฝ่ายค้านมีกรอบเวลา 45 ชั่วโมง ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล คณะรัฐมนตรี (ครม.) และประธานในการประชุม มีกรอบเวลา 18 ชั่วโมง
สำหรับการประชุมจะดำเนินตั้งแต่วันที่ 19-22 ก.ค. เวลา 08.30 - 00.30 น. ยกเว้นวันสุดท้ายคือวันที่ 22 ก.ค. ที่จะจบภายในเวลา 23.30 น. หรือไม่เกิน 24.00 น. และลงมติในวันที่ 23 ก.ค. เริ่มเวลา 10:00 น. ทั้งนี้ จะบริหารเวลาให้สมดุลกันทั้งสองฝ่ายในแต่ละวัน คือฝ่ายค้าน 11 ชั่วโมง และฝ่ายรัฐบาล 2-3 ชั่วโมง เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่รัฐบาลใช้เวลาชี้แจงกระจุกกันอยู่ภายในวันเดียว
ส่วนระบบการอภิปราย สุทิน ชี้แจงว่า มี 3 รูปแบบ คือ 1) ระบบเดี่ยว คือการอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 2) ระบบพ่วงสอง คือการอภิปรายรัฐมนตรี 2 คน โดยมีเป้าหมายหลักและเป้าหมายรอง เนื้อหาเชื่อมโยงกัน และ 3) ระบบพ่วงสาม คือการอภิปรายรวม เช่น พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกับกลุ่ม 3 ป.
และผู้อภิปราย สามารถอภิปรายรัฐมนตรีได้หลายคนและหลายรอบ โดยแต่ละรอบจะอภิปรายรัฐมนตรีซ้ำคนเดิมไม่ได้
เมื่อถามถึงผลการหารือที่น้อยกว่า 5 วันตามที่วิปฝ่ายค้านคาดหวัง สุทิน ตอบว่า พอใจกับข้อตกลง เพราะเดิมตั้งว่า 5 วัน โดยประเมินไว้ 45 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่ 5 วัน แต่จำนวนชั่วโมงอภิปรายฯ ก็ได้เท่าที่คาดหวัง
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า หากมีการประท้วงจากฝั่งรัฐบาล จะทำให้การจัดสรรเวลามีปัญหาหรือไม่ สุทิน ตอบว่า การประท้วงคงมีเป็นปกติ แต่เวลาแต่ละฝ่ายก็มีจำกัดอยู่ ใครประท้วงก็หักเวลาฝ่ายนั้น ทุกฝ่ายจึงต้องคำนึงถึงการจัดการเวลาด้วย