ไม่พบผลการค้นหา
'จิรพงษ์' ขอฝ่ายตรงข้ามหยุดกลัว 'ทักษิณ' ได้แล้ว เชื่อมีคำแนะนำดีๆช่วยแก้ปัญหาปากท้องประชาชน “ชนก”ชี้โครงการวัวแสนล้านเป็นตู้เอทีเอ็มเคลื่อนที่ให้กับเกษตรกร เพิ่มจีดีพีประเทศได้มหาศาล

จิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการด้านแผนงานบูรณาการ พิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567 และอดีต ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อตอนที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯกำลังเดินทางกลับมาเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ว่าตนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะนายทักษิณ เคยเป็นอดีตนายกฯ นโยบายต่างๆ มีคุณูปการต่อประเทศชาติในสมัยนั้นเป็นอันมาก มีผู้ส่วนได้และส่วนเสียที่ต้องรับโทษ โดยเฉพาะพ่อค้ายาเสพติดที่ยังถูกจำขังอยู่เป็นอยู่เป็นจำนวนหนึ่ง มาวันนี้ ทักษิณ ได้เข้าสู่ขบวนการยุติธรรมเป็นที่เรียบร้อยตามระเบียบของกฎหมายที่มีมาก่อนรัฐบาลชุดนี้ และพวกตนรู้สึกดีใจที่ท่านทักษิณปลอดภัย และจะเป็นประโยชน์กับประเทศเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้รับคำแนะนำต่างๆ ทั้งในเรื่องการแก้ไขเศรษฐกิจ แก้ไขความเดือนร้อนประชาชน และตนขอให้ท่านที่กลัวนายทักษิณที่เคยมีผลงานมากมายจนได้เป็นรัฐบาลมาต่อเนื่องในยุคพรรคไทยรักไทย หยุดกลัวท่านอดีตนายกฯได้แล้ว เพราะขณะนี้ประชาชนกำลังประสบปัญหาเรื่องเศรษฐกิจฝืนตัวได้ช้าจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และหันมาสนใจเรื่องปากท้องชาวบ้านบ้าง

ด้าน ชนก จันทราทอง สส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้พวกตนรู้สึกดีใจที่ สมศักด์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ได้นำโครงการวัวแสนล้านเสนอต่อ ครม. พิจารณาอนุมัติหลักการโครงการนำร่องจำนวน 1 แสนครัวเรือน ผ่านกองทุนหมู่บ้าน โครงการวัวแสนล้านนี้จะเปิดโอกาสให้เกษตรกรกู้ยืมเงินครอบครัวละ 50, 000 บาท ผ่านธนาคารของรัฐ จะทำให้เกษตรไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น เพิ่มพลวัตรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้ สโลแกน "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้" ของ เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่ยังคงเดินทางออกไปเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะการเจราการส่งออกวัวและผลิตภัณฑ์เนื้อวัวแปรรูปกับประเทศซาอุดีอาระเบีย จีน มาเลเซีย เวียดนาม ถ้าโครงการนี้สำเร็จจะทำให้เกษตรกรไทยผู้เลี้ยงวัว 1 ครอบครับจะมีเงินถึง 250,000 บาทภายในระยะเวลา 4 ปี ถือว่าเป็นตู้เอทีเอ็มเคลื่อนที่ให้กับเกษตรกรไทย ถ้าโครงการนี้ขยายถึง 1 ล้านครอบครับก็จะเพิ่มจีดีพีให้ประเทศเป็นจำนวนมาก รายได้ของเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวควบคู่ก็จะเพิ่มเป็น 3 เท่าภายใน 4 ปีตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่งในอดีต ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้จัดตั้งกองทุนหมู่บ้านขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้กับประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้