ไม่พบผลการค้นหา
“ปิยบุตร” ลั่น สู้ต่อกรณี “ธนาธร” ถือหุ้นสื่อ หวังศาล รธน.เปิดไต่สวนพยานหลักฐาน โต้ข่าว “อนาคตใหม่” เป็นเหตุแบ่งเค้ก กมธ.ไม่ลงตัว ยัน ยังไม่ได้ตกลงกับรัฐบาล รอคุย 6 ก.ย.นี้

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แถลงข่าวกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องที่พรรคอนาคตใหม่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยกเลิกคำสั่งที่ให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.จากกรณีถือหุ้นสื่อ โดยระบุว่า จากกรณีนี้ รวมถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยกรณี 33 ส.ส. ฝ่ายค้านถือหุ้นสื่อ ซึ่งศาลยกคำร้องไป 1 คน คือ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ส่วนอีก 32 คนยังอยู่ในชั้นศาล เพียงแต่ศาลไม่ได้สั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่

ทั้ง 2 กรณีนี้ ทำให้จนถึงปัจจุบันที่เราใช้รัฐธรรมนูญ 2560 มีการร้องรัฐมนตรีและ ส.ส.ถือหุ้นสื่อหลายกรณี แต่มีเพียงกรณีเดียวเท่านั้นที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ คือ กรณีนายธนาธร ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่ากำลังพิจารณากรณีของนายธนาธรให้มีการไต่สวนพยานหลักฐาน โดยบอกว่าจะพิจารณาต่อไปถึงวันที่ 11 ก.ย.นั้น ฝ่ายนายธนาธรมีความเห็นว่า กรณีนี้จำเป็นต้องมีการไต่สวน เนื่องจากเป็นกรณีที่ไม่ได้มีเฉพาะประเด็นข้อกฎหมาย แต่มีประเด็นข้อเท็จจริงด้วย มากไปกว่านั้น ยังมีพยานหลักฐานและพยานเอกสารจำนวนมากที่จำเป็นต้องพิจารณา หากเทียบกับกรณีของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีการไต่สวนพยานหลักฐานเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตนเคารพคำสั่งของศาล และหลังจากนี้จะสู้คดีกันต่อไป หวังว่าศาลจะเปิดโอกาสให้มีการไต่สวนพยานหลักฐาน

นายปิยบุตร กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวระบุว่าพรรคอนาคตใหม่เล็งจะเป็นประธานในบางคณะกรรมาธิการ (กมธ.) จนนำมาสู่ปัญหากับฝ่ายรัฐบาล ทำให้ตกลงกันไม่ได้ และมีการพาดหัวข่าวทำนองว่า "แบ่งเค้กไม่ลงตัว" นั้น ตนขอชี้แจงว่า ไม่ทราบว่าใครเป็นคนให้ข่าว ตนถามทุกคนในพรรค ไม่มีใครให้ข่าวนี้ จึงขอยืนยันว่ารายชื่อ กมธ.ชุดต่างๆ ที่หลุดออกมา และบอกว่าพรรคอนาคตใหม่ต้องการนั้น มีทั้ง กมธ.ที่ตรงและไม่ตรง โดยพรรคอนาคตใหม่มีสิทธิในการเป็นประธาน กมธ. 6 คณะ ตามสัดส่วนจำนวน ส.ส.ที่คำนวณโดยสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเราคัดเลือกตามยุทธศาสตร์ของพรรค

ยืนยันตรงนี้ว่า ยังไม่มีการตกลงเจรจากับทางรัฐบาล โดยในวันศุกร์ที่ 6 ก.ย.นี้ ทางเลขาธิการสำนักงานสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือให้แต่ละพรรคเข้ามาพูดคุยกันแล้ว ว่าจะจัดสรรและตกลงวิธีการเลือกประธาน กมธ.อย่างไร ดังนั้น ขอยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้เป็นต้นเหตุใดๆ ทั้งสิ้น ที่จะทำให้การแบ่งประธาน กมธ. ยังไม่ลงตัว

อย่างไรก็ตาม พรรคอนาคตใหม่และพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีความเห็นว่า กมธ.เป็นกลไกของสภาในการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร ดังนั้น ฝ่ายรัฐบาลไม่ควรเอาตำแหน่งประธาน กมธ.ในชุดที่ตัวเองเป็นรัฐมนตรีอยู่ไปทั้งหมด ไม่เช่นนั้น การตรวจสอบการทำงานของสภาจะไม่เกิดผล