รศ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิจารณ์ว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประเมินสถานการณ์น้ำท่วมต่ำเกินไป กว่าจะจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือศปภ. เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม ก็เป็นช่วงที่ต้องรับมือน้ำท่วมกรุงเทพฯแล้ว พร้อมกับแสดงความเสียดายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่รับหน้าที่ประธาน ศปภ. เอง เนื่องจากเป็นการแสดงความรับผิดชอบ และแสดงภาวะผู้นำ
อ.สิริพรรณ ยอมรับว่า การเมืองเข้ามาอยู่ในการบริหารจัดการน้ำมาตลอด เมื่อภาครัฐเข้ามาบริหารจัดการว่าจะ "ใ���รท่วม" "ใครไม่ท่วม" ความชัดเจนในการสั่งการจึงมีความสำคัญ ในฐานะนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์เธอไม่เห็นด้วยกับการใช้ พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เห็นว่าการใช้พระราชบัญญัติป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ปี 2550 เป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว
อ.สิริพรรณ เห็นว่า ศปภ.มีปัญหาทั้งในเชิงโครงสร้างการบริหารจัดการ และการให้ข้อมูลกับประชาชนจึงเสนอให้มีการปรับโครงสร้าง ศปภ. ทบทวนเรื่องการบริหารจัดการน้ำ และนำนักวิชาการที่มีความรู้เรื่องน้ำมารวมตัวเพื่อจัดทำข้อมูลชุดเดียว และขอให้พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ยุติเรื่อง "การเมือง" ในช่วงแก้ปัญหาวิกฤติน้ำ
ในมุมมองการเมือง อ.สิริพรรณ ประเมินว่า 2 พรรคการเมืองใหญ่ ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ยังรักษาฐานมวลชนที่สนับสนุนพรรคของตัวเองได้ แต่ตัวชี้วัดว่า รัฐบาลจะสอบผ่านหรือไม่ มี 3 ปัจจัย คือ ความรู้สึกของประชาชน พรรคร่วมรัฐบาล และอำนาจภายนอก แรงกดดันที่จะโถมใส่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ คือ ความสำเร็จของมาตรการฟื้นฟู ถ้าทำไม่ได้แรงกดดันจะหนักหน่วงขึ้น
อ.สิริพรรณ เสนอให้ คณะรัฐมนตรี สส. และสว. แสดงความรับผิดชอบ เช่น ลดเงินเดือนตัวเอง เพื่อแสดงถึงน้ำใจ และควรมีการปรับคณะรัฐมนตรีหลังมีการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วว่า ความผิดพลาดในการบริหารจัดการน้ำก่อนเกิดมหาอุทกภัยใหญ่เกิดจากอะไร