กลุ่มกาสิโนของฝรั่งเศส ส่งสัญญาณขายหุ้นบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ในไทยแล้ว หลังยอมรับมีกลุ่มธุรกิจในไทยสนใจซื้อกิจการ คาดว่าจะนำไปลดภาระหนี้กว่า 5,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 210,000 ล้านบาท
กลุ่มกาสิโนกรุ๊ปของฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา ระบุว่า ได้รับการแสดงความสนใจซื้อหุ้น บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และ กำลังดำเนินการต่างๆ ที่จะนำไปสู่การขายสินทรัพย์นี้
ปัจจุบัน กาสิโน กรุ๊ป เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบิ๊กซีในไทย 58.6% มีมูลค่า 2,600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9 หมื่น 4 พันล้านบาท และปัจจุบันมีสาขากว่า 700 สาขา เป็นอันดับ 2 รองจากเทสโก้โลตัส รวมทั้งการซื้อกิจการคาร์ฟูร์เมื่อปี 2553 โดยคาดว่า เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่มีกว่า 5,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 2 แสน 1 หมื่นล้านบาท แม้ก่อนหน้านี้ กลุ่มกาสิโนกรุ๊ป ยอมรับว่า จะมีการขายธุรกิจบิ๊กซีในเวียดนาม และการตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT (รีด) โดยทรัพย์สินคือสาขาของบิ๊กซีในไทยเข้ามาในกองทรัสต์
รอยเตอร์ส รายงานว่า กลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของไทยเบฟเวอเรจ สนใจที่จะเข้าซื้อบิ๊กซีในเวียดนามจากกาสิโน กรุ๊ป รวมทั้งในไทย ซึ่งนายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่ากาสิโนกรุ๊ป แจ้งเจตนามายังบริษัท ว่าต้องการขายหุ้นบิ๊กซีที่ถืออยู่ ขณะที่กลุ่มอื่นๆที่สนใจ เช่น เซ็นทรัลกรุ๊ป อดีตผู้ก่อตั้งบิ๊กซี ส่วนเครือซีพี อาจสนใจเทสโก้โลตัส หากมีการขายมากกว่า
ก่อนหน้านี้ โรเบิร์ต เจมส์ ซิสเซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ระบุว่าในปี 2559 จะเปิดไฮเปอร์มาร์เก็ตอีก 6 สาขา , บิ๊กซี มาร์เก็ต 3 สาขา , และร้านมินิ บิ๊กซี 75 สาขา เพิ่มจากปี 2558 ที่มี 697 สาขา
ทั้งนี้เ รายได้ในเอเชีย ของกาสิโน กรุ๊ป คิดเป็น 7% ของรายได้ทั้งหมด หรือ 3,500 ล้านยูโร หรือ 139,000 ล้านบาทในปี 2557 และกว่า 98% มาจากบิ๊กซีในไทย และเดือนกรกฎาคม 2558 ๆได้ขายหุ้นให้ เอซิโต กรุ๊ป ค้าปลีกรายใหญ่ในอเมริกาใต้ 1,700 ล้านยูโร หรือ 66,000 ล้านบาท