รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 17 สิงหาคม 2563
“ใบตองแห้ง” จัดหนัด “ชุดใหญ่ไฟกระพริบ” ร่ายยาวถามหา “ศักดิ์ศรี” จากนายตำรวจยศสูงๆ ส่อทำทั้ง “วงการตำรวจ” ไร้เกียรติ หลังมีภาพ “ม็อบประชาชนปลดแอก” เดินหน้าไปทวงถามหมายจับ แต่ไร้คำตอบ ดักคอ! อย่าไปดักจับ ดักอุ้ม จนเหมือนว่าแกนนำม็อบไปทำผิดในคดีร้ายแรง
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวภายหลังเข้าประชุมสรุปภาพรวมการชุมนุมของคณะประชาชนปลดแอก ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการแจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ โดยในภาพรวมได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนคำปราศรัยอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผิดกฎหมายหรือไม่
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มแกนนำที่มีหมายจับเดินทางไปที่ สน.สำราญราษฎร์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ทำการจับกุม ว่า / เรื่องนี้ได้รับแจ้งจากว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมมาเพื่อสอบถาม แต่เนื่องจากเป็นยามวิกาล และมีบุคคลจำนวนมาก เกรงว่าการดำเนินการตามหมายจับจะไม่เกิดความสงบเรียบร้อย และอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลอื่น จึงตัดสินใจยังไม่ดำเนินการ แต่ยืนยันว่าตำรวจต้องทำตามกรอบของกฎหมาย ซึ่งมีผู้ถูกออกหมายจับจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 15 คน จับกุมและแจ้งข้อหาไปแล้ว 3 คน
ผู้สื่อข่าว ถามถึงพฤติการณ์ของ นายอานนท์ นำภา ผิดเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่าศาลได้นัดไต่สวนแล้ว โดยพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เป็นผู้ยื่นคำร้องไป ส่วนกรณีของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ที่มาร่วมชุมนุมเมื่อวานนี้ อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าได้ทำผิดเงื่อนไขของศาลหรือไม่ หากเป็นการกระทำผิดเงื่อนไขของศาลก็จะนำเรียนศาลไต่สวนพิจารณาต่อไป
การแสดงออกทางการชุมนุม ดำเนินการได้แต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ เรื่องมาตรการควบคุมโรค และการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ตำรวจมีหน้าที่อำนวยความสะดวก รักษาความสงบ และรักษาความปลอดภัยกับผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไป ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ ขณะชุมนุมมีการพบวัตถุต้องสงสัย ตำรวจได้มีการรักษาความปลอดภัย และ ความสงบอยู่แล้ว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้จัดกิจกรรม และ ผู้มาทำกิจกรรมด้วย
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ใช้กฎหมายคุกคามประชาชน ซึ่งหากทำกิจกรรมในกรอบกฎหมายก็ไม่มีอะไร เวลาแจ้งการชุมนุม ทางเจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมสาธารณะจะแจ้งข้อกำหนดต่างๆ ให้ผู้จัดรับทราบ หากผู้ชุมนุมดำเนินการตามประกาศ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ก็ไม่เป็นการคุกคามอะไร เพราะตำรวจไม่สามารถดำเนินการอะไรที่เกินเลยข้อกฎหมายได้
ผู้สื่อข่าวถึงก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้สั่งให้ตำรวจจับกุมแกนนำแต่ตำรวจไปจับกุมเอง / พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า ก็ถูกต้องอยู่แล้ว เพราะนายกฯ จะมาสั่งว่าให้ไปจับกุมใคร คงไม่สั่งแบบนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความจำเป็นดำเนินการตามกฎหมาย ก็ขอให้เข้าใจเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
ทั้งนี้ การชุมนุมใหญ่เมื่อ 16 ส.ค. ส่วนตัวมองว่า ไม่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเข้าข่ายความผิดใด
ผบช.น.กล่าวด้วยว่า สำหรับการนัดชุมนุมในครั้งต่อไปทางตำรวจไม่ได้ห้ามการชุมนุม เพราะไม่สามารถห้ามหรืออนุญาตได้ ถือว่าเป็นสิทธิ แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งผู้จัดกิจกรรมจะต้องแจ้งกับสถานีตำรวจในพื้นที่ว่าจะมีการชุมนุมทุกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอธิบายให้ทราบว่าการชุมนุมปฏิบัติตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และ พ.ร.บ.การควบคุมโรค รวมทั้งต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
เมื่อเวลา 22.25 น. ของวันที่ 16 ส.ค. นายทัตเทพ เรืองประไพรกิจเสรี แกนนำกลุ่มคณะประชาชนปลดแอก ขึ้นกล่าวปราศรัยเหตุผลการจัดกิจกรรมชุมนุมเรียกร้อง และประกาศข้อเรียกร้องของกลุ่ม 3 ข้อว่า รัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง และสถาบันการศึกษา ต้องหยุดคุกคามประชาชน ทั้งการคุกคามทางกายภาพ และใช้จิตวิทยา และการไปเยี่ยมบ้าน/ที่ทำงาน รวมทั้งหยุดดำเนินคดีประชาชน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการยุบสภา เพราะนี่คือทางออกของการเมืองไทย ขอให้รัฐบาลปฏิบัติตาม เพราะเป็นทางเดียวที่ง่ายที่สุดโดยไม่มีการนองเลือด
ทั้งนี้ คณะประชาชนปลดแอก ได้เสนอโรดแมพ โดยต้องเริ่มจากยกเลิก รธน.ม.269-272 เพื่อเอา 250 สว.ออกไปจากรัฐธรรมนูญ และรัฐสภาภายในกันยายนนี้ รัฐสภาต้องแก้ไข รธน.ม.256 เพื่อให้จัดตั้ง สสร. และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชน เพื่อประชาชนและเรียกร้องไปยังสภาให้ร่างรัฐธรรมนูญโดยต้องไม่ล็อคสเปค และถกเถียงกันได้ทุกมาตรา รวมถึงรัฐบาลต้องประกาศยุบสภา จัดตั้งรัฐบาลใหม่
อีกทั้งได้ย้ำจุดยืน2ข้อ คือจะต้องไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเด็ดขาด และไม่เอาการทำรัฐประหารไม่ว่าโดยใครก็ตาม ซึ่งหากมีการรัฐประหารเกิดขึ้นจะออกมาต่อต้านรัฐประหาร ส่วนอีกความฝัน ที่ต้องไปให้ถึงคือ ต้องการให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่อยู่ภ่ยใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง จะต้องอยู่เป็นมิ่งขวัญ สถาพรภายใต้รัฐธรรมนูญได้
นายทัตเทพมองว่า หากทำได้ ประเทศไทยจะมีการเมืองที่ดี ซึ่งจะทำให้การศึกษาดี ระบบสาธารณสุขดี และอำนาจจะกระจายสู่ท้องถิ่น และสมรสได้อย่างเท่าเทียม และจะไม่ถูกบังคับเกณฑ์ทหาร และถ้าการเมืองดีประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
จากนั้น แกนนำที่เคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. รวม 31 คนที่จะถูกดำเนินคดีนั้น ได้ขึ้นมาร่วมกันแถลงการณ์บนเวที ในแถลงการณ์ ย้ำให้รับฟังข้อเรียกร้อง โดยเวลา 22.40 น. "ประชาชนปลดแอก" ประกาศยุติการชุมนุม และแยกย้ายเดินทางกลับ