รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 20 มีนาคม 2563
ช้าไปไหม? ‘อ.วิโรจน์-อ.พิชญ์’ ตั้งคำถามถึงรัฐมนตรี ‘อนุทิน’ มาพูดอะไรตอนนี้ ทำเป็นขึงขังต้องคัดกรองคนเข้าประเทศ ทำคนไทยที่อยู่ต่างแดนลำบากต้องพากันไปรอขอใบรับรองแพทย์ กว่าจะได้รับอนุญาตให้กลับไทย ย้อนกลับไปตอนโรคระบาดใหม่ๆ ทำไมถึงปล่อยให้นักท่องเที่ยวจีน-เกาหลีใต้เดินทางเข้าไทยได้ โดยไม่เข้มงวดคัดกรอง
มีรายงานว่า คนไทยในอังกฤษ ส่งจดหมายเปิดผนึก ด่วน ถึงผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้ทบทวน ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องแนวปฏิบัติ สำหรับผู้เดินทางกลับมาประเทศไทย
โดยเห็นว่า ประกาศฉบับนี้ มีผลกระทบโดยตรงต่อบุคคลสัญชาติไทย ที่ต้องการเดินทางกลับประเทศไทย เนื่องจากมีการบังคับให้บุคคลสัญชาติไทย ต้องมีใบรับรองแพทย์ประเภท fit-to-fly ซึ่งเห็นว่า น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 39 ที่กำหนดว่า "การห้ามคนไทยเข้าราชอาณาจักรจะกระทำไม่ได้"
และเนื่องจากขณะนี้ general practice (GP) ในสหราชอาณาจักร ซึ่งสามารถออกใบรับรองดังกล่าวได้ มีภาระที่จะต้องดูแลผู้ป่วยโควิด-19 จึงไม่น่าจะสละเวลา มาออกใบรับรองแพทย์ให้คนไทยซึ่งต้องการกลับราชอาณาจักรไทยได้ อีกทั้ง โดยสภาพการพบแพทย์ซึ่งสามารถออกใบรับรองแพทย์ไม่สามารถกระทำได้โดยง่าย เหมือนอยู่ในประเทศไทย
แม้ว่า ทางสถานทูตไทยในประเทศสหราชอาณาจักร จะพยายามบรรเทาภาระของคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับราชอาณาจักรไทย โดยการให้มีจัดให้มีแพทย์มาช่วยออกใบรับรองให้คนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับราชอาณาจักรที่ สถานทูตฯ แต่การเยียวยานี้ ไม่สามารถบรรเทาภาระที่เกิดกับคนไทยที่อยู่ในเมืองอื่น ซึ่งอยู่ห่างไกลจากสถานทูตฯได้ นอกจากนั้น การเดินทางมายังสถานทูตฯอาจเป็นการเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ประสงค์จะขอใบรับรองแพทย์ ติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างทางได้
และการจัดให้คนไทยไปขอใบรับรองแพทย์ที่สถานทูต ยังส่งผลให้ คนไทยต้องไปรวมตัวที่สถานทูตฯ อันน่าจะเป็นการขัดนโยบาย Social Distancing ของสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจจะเป็นเหตุแห่งการแพร่กระจายโรคโควิด-19 ต่อบุคคลอื่นอีก
เช่นเดียวกับ คนไทยที่พำนักในญี่ปุ่น พบว่ามีผู้ที่ประสบกับความยุ่งยากจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาจะเดินทางกลับไทยในช่วงนี้มากที่สุด เพราะเป็นช่วงปิดภาคการศึกษาของญี่ปุ่นพอดี / หลายคนเป็นนักศึกษาทุนของรัฐบาลไทย ที่มีระเบียบว่าจะต้องกลับประเทศไทยภายหลังสิ้นสุดการศึกษาไม่เกินระยะเวลากำหนด
นักศึกษาเหล่านี้ได้ซื้อตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว และจะเดินทางกลับส่วนใหญ่ในสุดสัปดาห์นี้เป็นต้นไป แต่เมื่อต้องไปตรวจร่างกาย และขอใบรับรองจากสถานทูตอย่างเร่งด่วน จึงทำให้หลายคนมีความเสี่ยงที่จะดำเนินการไม่ทัน และไม่สามารถขึ้นเครื่องได้
การออกใบรับรองแพทย์ในญี่ปุ่นเป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่ใช่สถานพยาบาลทุกแห่งจะออกให้ได้ โดยเฉพาะใบรับรองแพทย์ภาษาอังกฤษ ต้องนัดหมายกับสถานพยาบาลเฉพาะสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ บางแห่งนัดตรวจและออกใบรับรองให้ได้ทันที แต่บางแห่งก็ต้องใช้เวลาหลายวัน และมีค่าใช้จ่ายสูงราว 3000-10,000 เยน
อีกทั้งสถานพยาบาลเฉพาะนี้มีอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ เช่น โตเกียว โอซากา นาโงยา ทำให้ผู้ที่อยู่ในเมืองอื่น ๆ ต้องเดินทางเข้ามาในเมืองใหญ่ / นอกจากนี้ การเดินทางมาที่โรงพยาบาลก็ยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ แม้แต่แพทย์ก็แนะนำว่า ไม่มีความจำเป็นไม่ควรมาที่โรงพยาบาล
เมื่อได้ใบรับรองแพทย์แล้ว ยังต้องส่งให้สถานทูตหรือสถานกงสุลรับรอง ซึ่งสถานทูตไทยประจำโตเกียวระบุว่า ให้ส่งใบรับรองแพทย์และเอกสารประกอบไม่น้อยกว่า 60 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และสถานเอกอัครราชทูตฯ คาดว่าจะส่งกลับไป 48 ชม. ก่อนเวลาเดินทางผ่าน e-mail
สถานการณ์ยุ่งยากยิ่งขึ้น เพราะในวันนี้ (20 มี.ค.) เป็นวันหยุดราชการของญี่ปุ่น สถานพยาบาลจำนวนมาก รวมทั้งสถานทูตและสถานกงสุลปิดทำการ ทำให้ทวีความยุ่งยากมากขึ้น และคาดว่าในวันจันทร์ที่ 23 มี.ค. ซึ่งเปิดทำการ จะเกิดความหนาแน่นและโกลาหลเช่นเดียวกับในประเทศอื่น ๆ
ในส่วนของชาวต่างชาติ ที่หลายคนเป็นครอบครัวจะเดินทางไปประเทศไทยด้วยนั้น ยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะต้องการใบรับรองว่า ไม่ตรวจพบเชื้อไวรัส COVID -19 และประกันสุขภาพมูลค่าไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
การตรวจเชื้อไวรัส COVID -19 ในญี่ปุ่นนั้น สำหรับผู้ที่ไม่ปรากฏอาการใด ๆ แทบจะไม่มีสถานพยาบาลแห่งไหนรับตรวจ แม้จะยอมจ่ายเงินเองก็ตาม เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นจำกัดการตรวจหาเชื้อไว้ที่ศูนย์ป้องกันโรคระบาดของรัฐ ผู้ที่จะเข้ารับการตรวจจะต้องมีหนังสือส่งตัวจากหน่วยงานสาธารณสุขประจำถิ่นที่อยู่เท่านั้น
ชาวญี่ปุ่นให้ความเห็นว่า นี่คือมาตรการ “ปิดประเทศทางอ้อม” ถึงแม้รัฐบาลไทยไม่ประกาศห้ามเดินทางเข้าประเทศตรงๆ เหมือน สหรัฐ ไต้หวัน และอีกหลายประเทศ แต่การตั้งเงื่อนไขที่สูงเช่นนี้ ก็ทำให้ชาวต่างชาติเกือบจะไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า #ห้ามคนไทยกลับไทยทำไม่ได้ ที่กำหนดเงื่อนไขว่าคนไทยในประเทศเสี่ยงต้องมีใบรับรองแพทย์และประกันสุขภาพจึงจะกลับไทยได้ กำลังสร้างความโกลาหล ในยุโรป อเมริกา ขอใบรับรองแพทย์ไม่ใช่ง่ายๆ ยิ่งใบรับรองว่าไม่เป็นโควิด หมอคงไม่กล้าออกให้ นักเรียนไทยคนไทยอยากกลับบ้านก็วุ่นไปหมด
แต่ปัญหาสำคัญคือคำสั่งที่กำหนดว่าคนไทยจะกลับบ้านต้องมีใบรับรองแพทย์นี้ออกโดยผู้ที่ไม่มีอำนาจ และสำคัญกว่านั้นคือขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 39 การห้ามคนที่มีสัญชาติไทยเข้าประเทศไทยทำไม่ได้ และไม่มีข้อยกเว้นใดๆครับ
เข้าใจว่ารัฐบาลคงจะหาทางลดชาวต่างประเทศเข้าไทย แต่ไม่กล้าห้ามตรงๆ เลยใช้วิธีนี้กับคนไทยด้วย / ก็เลยเป็นปัญหาไปอีกแบบ / ที่ควรคือห้ามชาวต่างชาติจากประเทศเสี่ยงเข้าประเทศ ยกเว้นกรณีจำเป็นยิ่งยวดจริงๆ ก็คือประกาศปิดประเทศไปเลยนั่นเอง
ยุโรปและสหรัฐกำลังเผชิญปัญหาหนักขึ้นๆ คนไทยย่อมอยากกลับบ้าน นักเรียนที่นั่นก็ปิดเทอม / สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือเตรียมการรองรับ การกลับมาของคนจำนวนมาก ซึ่งจะเกิดขึ้นแน่ / ระบบในการคัดกรองและกักตัวที่ดีมีประสิทธิภาพ และมาตรการรับมือโควิด19 ที่จะแก้ยากขึ้น
รัฐธรรมนูญมาตรา ๓๙ การเนรเทศบุคคลสัญชาติไทยออกนอกราชอาณาจักร หรือห้ามมิให้ผู้มีสัญชาติไทย เข้ามาในราชอาณาจักร จะกระทำมิได้
การถอนสัญชาติของบุคคลซึ่งมีสัญชาติไทยโดยการเกิด จะกระทำมิได้ไม่มีบอกว่ายกเว้นที่กฎหมายบัญญัติครับ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีผู้เดินทางกลับมาจากสเปน โพสต์ข้อความว่า สนามบินไม่มีการตรวจคัดกรอง ว่า
การตรวจไข้ โดยการเดินผ่านสามารถทำได้ / คนที่เข้ามาแล้วบอกว่า ไม่มีการตรวจคัดกรอง จริงๆ ไม่ใช่ / ที่สุวรรณภูมิ 3 ชั้นไม่มีทางจะหลุดไปได้ / นอกจากจะไปกินยาลดไข้มา หรือเอาน้ำแข็งพกในตัว
จริงๆ แล้วคนมีความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ให้ความร่วมมือปกติ เดินผ่านมาไม่มีไข้ก็ปฏิบัติอย่างหนึ่ง / มีไข้ก็แยกออกมาไปทำการรักษา / การไปโพสต์ว่า ไม่มีการตรวจอะไรเลยคงไม่ใช่ เราพยายามหาอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดความสะดวกสบายที่สุดสำหรับผู้เดินทางสัญจรไปมาทางสนามบิน ก็ขอทำความเข้าใจด้วย
การโพสต์ดังกล่าว ถือว่าไม่หวังดีต่อบ้านเมือง เขียนข้อความที่ทำให้คนตื่นตระหนก โดยไม่มีความรู้หรือติดตามข่าวสารเลย เกิดมาเพื่อบ่นอย่างเดียว ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม สเปนยังไม่ถูกประกาศเป็นประเทศที่ต้องใช้การตรวจอย่างเข้มข้น ลองกลับมาจากอิตาลี นอกจากเดินผ่านไม่ได้แล้ว ต้องถูกกักตัวอีก 14 วัน ถูกกักไว้ตรวจอย่างเข้มงวดก่อนจะออกจากสนามบินได้
บางทีภาษาไทยเรียกว่าฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด คนที่เดือดร้อนไม่ใช่พวกผม คนเดือดร้อนคือประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ต้องมาตื่นตระหนกกับสิ่งที่ไม่ใช่ความเป็นจริง และเกิดความโกลาหลไปทั่ว ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ กลับมาได้ก็บุญแล้ว เพราะว่ากว่าจะกลับมาได้" นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า ตอนนี้คนไทยต่างประเทศกว่าจะกลับมาได้ เราต้องให้ความปลอดภัยผู้โดยสารทั้งไฟลท์ ถึงต้องมีใบรับรองแพทย์ มีการคัดกรองที่เข้มข้นก่อนกลับมา คนกลับมาได้ตอนนี้อย่าบ่นเลย เป็นห่วงคนที่อยู่ต่างประเทศดีกว่า รัฐบาลก็ต้องหาทางช่วยให้กลับเข้ามาได้ ไม่มีทางที่จะไม่ให้คนไทยกลับเข้าประเทศ แต่ต้องกลับเข้ามาแบบปลอดภัยทั้งตัวเอง ผู้ร่วมเดินทาง และผู้โดยสารอื่นๆ ในเที่ยวบิน ขอให้มีความอดทนกันนิดหนึ่ง เราต้องสร้างมาตรฐานให้เกิดความปลอดภัย