สหประชาชาติออกรายงานเตือนให้ทั่วโลกช่วยป้องกันไม่ให้โลกร้อนขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส โดยต้องเริ่มใช้มาตรการเข้มงวดในการแก้ไขปัญหานี้ภายใน 12 ปี เพื่อป้องกันหายนะที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศจากทั่วโลกได้ร่วมกันเขียนรายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหประชาชาติ โดยระบุว่าทั่วโลกมีเวลาเหลือเพียง 12 ปีในการควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้นไปกว่าเดิมเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
IPCC ได้เรียกร้องให้รัฐบาลทุกประเทศปรับเปลี่ยนนโยบายโดยด่วนที่สุด เพื่อรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงเกินกว่าที่กำหนดไว้ โดยประเมินว่านี่เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมาก แต่ต้องทุกประเทศจะต้องมุ่งมั่นที่จะทำตามข้อตกลงปารีสว่าด้วยการป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขณะที่เดบรา โรเบิร์ตส ประธานร่วมคณะทำงานของ IPCC ระบุว่า นี่เป็นเส้นตายสำหรับมนุษย์ และนี่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนต้องลงมือแก้ปัญหา
การศึกษาของ IPCC ระบุว่า หากลดเป้าหมายอุณหภูมิโลกลงมาให้ไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส แทน 2 องศาเซลเซียสจากยุคอุตสาหกรรม จะทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากอากาศร้อนจัดลดลง อีกทั้งยังลดจำนวนผู้ยากไร้ซึ่งเกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศลงได้มาก นอกจากนั้น การลดอุณหภูมิเป้าหมายลงเพียง 0.5 องศาเซลเซียสจะช่วยป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจได้ถึง 22 เปอร์เซ็นต์ จากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 องศาเซลเซียส
รายงานดังกล่าวยังวิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภูมิภาคต่าง ๆ บนโลก โดยระบุว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เนื่องจากระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดอากาศแปรปรวนรุนแรง น้ำไหลบ่ามากขึ้นกว่าที่ผ่านมา หากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นจากยุคอุตสาหกรรมเกิน 2 องศาเซลเซียส ภายในปี 2040 ผลผลิตการเกษตรต่อหัวอาจลดลงถึง 1 ใน 3 จากเดิม ซึ่งจะกระทบกับทั้งคนจนในเมืองและในชนบทของภูมิภาคนี้ แต่หากอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1.5 องศา ความเปลี่ยนแปลงจะไม่ปรากฏให้เห็นชัดเจนนัก