ทวิตเตอร์ชวนผู้ใช้งานคุยแต่เรื่องดี ๆ
การใช้ข้อความที่แสดงความเกลียดชัง และการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่บริษัทโซเชียลมีเดียต่าง ๆ พยายามจะแก้ไข อย่างทวิตเตอร์ก็กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ โดยชวนให้ผู้ใช้งานโพสต์ข้อความและคุยกันแต่เรื่องดี ๆ ในแง่บวกให้มากขึ้น
ทวิตเตอร์ โซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานกว่า 335 ล้านคนทั่วโลก กำลังพยายามแก้ไขปัญหาการกลั่นแกล้งออนไลน์ หรือผู้ที่โพสต์ข้อความที่ก่อให้เกิดความเกลียดชัง ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ที่จะชวนให้ผู้ใช้งานทวีตข้อความและพูดคุยแต่เรื่องที่ดี ๆ น่าฟังให้มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ มีชื่อว่า Conversation Starter ซึ่งทวิตเตอร์จะถามผู้ใช้งานให้นึกถึงแต่เรื่องที่ดี ๆ เช่น ถามว่า 'ใครคือผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจที่ดีที่สุดในชีวิตคุณ และเพราะอะไร' หรือ 'คุณได้ดูและเข้าใจซีรีส์เรื่องล่าสุดที่เพิ่งฉายไปเมื่อคืนหรือเปล่า' โดยซารา ไฮเดอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ของทวิตเตอร์อธิบายให้ฟังว่า การคิดประโยคสนทนาเริ่มต้นเป็นสิ่งที่ยากสำหรับผู้ใช้งานทวิตเตอร์หลายคน เพราะคนส่วนใหญ่มีความรู้สึกว่าอยากจะเล่าเรื่องอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นด้วยเรื่องอะไร ซึ่งฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้แบ่งปันเรื่องราวดี ๆ บนทวิตเตอร์ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ทวิตเตอร์ยังเพิ่มปุ่มแสดงสถานะ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้บอกกับคนอื่น ๆ ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ใช้งานทวิตเตอร์อยู่หรือว่าไม่ได้ใช้ และมีเวลาว่างที่จะคุยกันหรือเปล่า และก็จะให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกสีหน้าวอลในบทสนทนาต่าง ๆ ได้ เพื่อที่ผู้ใช้งานจะได้เห็นทวีตของคนที่ตัวเองติดตามเป็นสีต่าง ๆ ตามที่ตัวเองเลือก ซึ่งจะทำให้การสนทนาบนทวิตเตอร์สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งฟีเจอร์ทั้งหมดนี้กำลังอยู่ระหว่างการทดลอง เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สนทนากันผ่านทวิตเตอร์มากขึ้น
ไลก้าเปิดตัว M10-D กล้องดิจิทัลไร้จอ LCD
กล้องไลก้าจากเยอรมนี ยังคงยึดมั่นความสุนทรีย์ในการถ่ายภาพแบบดั้งเดิม ด้วยการเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ M10-D กล้องดิจิทัลทรงเรนจ์ไฟนเดอร์ ที่แม้จะเป็นกล้องดิจิทัลราคาแพง รุ่นใหม่ล่าสุดจากไลก้า แต่กล้องตัวนี้จะให้ประสบการณ์การถ่ายภาพเหมือนกล้องฟิล์มสมัยก่อน เนื่องจากไม่มีจอ LCD สำหรับดูรูปภาพหลังกดชัตเตอร์ โดยผู้ถ่ายภาพจะไม่ได้เห็นภาพที่ตัวเองถ่ายจนกว่าจะโหลดลงไปดูในสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์
ไลก้า M10-D มีความสามารถและสเปกที่เหมือนกับกล้อง M10 ที่ออกมาเมื่อต้นปีที่แล้ว เช่น เซนเซอร์ 24 ล้านพิกเซลขนาดฟูลเฟรม ปรับค่าความไวแสง ISO ได้ตั้งแต่ 100 ถึง 50,0000 ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 5 ภาพต่อวินาที และรองรับระบบเชื่อมต่อผ่านไวไฟ ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมกล้องและดาวน์โหลดรูปภาพผ่านสมาร์ตโฟนได้ และจุดเด่นที่สุดของไลก้า M10-D คือการออกแบบที่เรียบง่ายขึ้นกว่าเดิม ด้วยการถอดโลโก้ไลก้าสีแดงออกจากตัวกล้อง และเสียงชัตเตอร์ที่เงียบขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ไม่เป็นที่สนใจของผู้คนขณะถ่ายภาพ สำหรับบอดี้ของกล้องไลก้า M10-D จะวางขายในราคา 7,995 ดอลลาร์ หรือประมาณ 263,000 บาท