รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2563

“ประยุทธ์ – ณัฏฐพล” ไม่แยแสข้อเรียกร้องของนักเรียน สะท้อนไม่จริงใจ ไม่แก้ปัญหา และไร้ความปราณี หลังมีข่าวเด็กถูกครูใช้อำนาจรังแก มีคลิปหลุดมากมายในโซเชียล แต่ไม่เคยเห็น แถมยังขู่เด็ก ย้ำอยู่ได้ เรื่องการแสดงออกทางการต้องมีขอบเขต (แอดฯ จำภาพ คนเป่านกหวีดใส่คุณหญิงพจมานได้ไม่ลืม)

ระวังจะถูกเด็กจัดม็อบมาหน้ากระทรวง..ถอนหงอกอีกนะครับ!

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึง การเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเรียนนิสิตนักศึกษา ที่ยังคงออกมาเคลื่อนไหวต่อเนื่อง รวมทั้งมีข้อเรียกร้องต่างๆ ว่า มองเป็นวิถีปกติของระบอบประชาธิปไตย โดยทุกคนต้องสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ ขณะเดียวกันสิ่งที่เราได้ทำมามีผลสัมฤทธิ์หลายอย่างด้วยกัน จึงขอให้ดูทั้งสองทางด้วย ไม่ห้ามไม่ให้ไปฟังใครก็ได้ แต่กลับถูกห้าม ว่าอย่ามาฟังตน ดังนั้นต้องมีตรงกลาง รับฟังกันทั้งสองฝ่าย และอย่าให้มีการแตกความสามัคคีกันโดยเด็ดขาด การบิดเบือน วันนี้ขอให้ลดผลกระทบเหล่านี้ไปด้วย เพราะถูกจับตามองจากหลายส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ดีใจที่ได้พบกับนิสิตนักศึกษาในช่วงหนึ่งระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งได้มีการยื่นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์ในหลายเรื่อง ทั้งด้านการศึกษา การสร้างอาชีพและสิ่งแวดล้อม / หลายเรื่อง รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ เป็นการแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลรับฟังข้อเสนอที่เป็นประโยชน์มาปรับใช้ อย่างระบบการศึกษามาปรับใช้ ที่ตั้องปรับปรุงหลักสูตร ลดเวลาเรียน ลดการบ้านให้เด็กมีเวลาเรียนร้องระหว่างกันมากยิ่งขึ้น เพราะระบบการศึกษาแบบเก่าขัดข้อง อาจทำให้ครู และนักเรียนมีปัญหาระหว่างกัน จึงต้องทำให้คนรุ่งเก่า และรุ่นใหม่เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันได้ เพราะสิ่งสำคัญจะต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบ มีเสถียรภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะขณะนี้มีนักลงทุนอยากเข้ามาลงทุนแต่ยังห่วงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึง กรณีที่บางโรงเรียนมีการตัดคะแนนนักเรียนที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า จากการติดตาม ไม่พบว่ามีโรงเรียนใดหักคะแนนนักเรียนที่ออกมาเคลื่อนไหว ส่วนการตักเตือนก็จะเป็นไปตามเหมาะสม มั่นใจว่าไม่มีการกระทำที่คุกคามความรู้สึกของนักเรียน จนสร้างความอึดอัดให้กับนักเรียน

พร้อมระบุว่า การแสดงออกถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ต้องดูถึงความเหมาะสม หากมีการแสดงออกที่ก้าวร้าวภายในโรงเรียน ทำให้เกิดความแตกแยก ผู้อำนวยการโรงเรียนสามารถตักเตือนได้ ไม่ใช่ว่ามีสิทธิเสรีภาพแล้วจะทำทุกอย่างได้ตามใจชอบ เพราะรัฐบาลเปิดให้มีการพูดคุยผ่านสภานักเรียน ไปจนถึงวันที่ 15 กันยายน เด็กๆ จึงควรใช้เวทีนี้แสดงออกอย่างสันติวิธี ส่วนตัวเชื่อว่า เวทีนี้จะเพียงพอต่อการแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้ หลังจากครบกำหนดเวลาแสดงความคิดเห็น กระทรวงศึกษาจะจัดลำดับข้อเสนอของนักเรียนตามลำดับความเหมาะสม หากเรื่องไหนที่คิดว่าส่งผลกระทบในวงกว้างก็จะดำเนินการชี้แจง

ส่วนเวทีรับฟังความคิดเห็นที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ หากมีตัวแทนแกนนำนักเรียนและ นักศึกษาเข้าร่วม กระทรวงศึกษาธิการก็จะเข้าร่วม แต่หากมีแค่ นักศึกษาก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระทรวงอุดมศึกษาฯ