รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 21 สิงหาคม 2563
Talking Thailand พาย้อนไปฟัง “ทยา-ณัฏฐพล” ไม่เคยรู้สึกผิด หลังเป่านกหวีดใส่ “คุณหญิงพจมาน” ทั้งที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวการเมือง แต่กล้าบอกว่า มีอารยะ
และยิ่งตลก เมื่อกรรมนกหวีดคืนสนอง “ณัฏฐพล” คนเป็นภรรยา อย่าง “ทยา” อวยสามีไม่เลิก กล่าวหา “แกนนำม็อบนักเรียน” พูดจารุนแรง
โอ้โห...อย่าให้แอดฯ หาคลิปเก่าเจอนะ #กรรมติดยูทูปแน่นอนนนนน!
นางทยา ทีปสุวรรณ ภรรยา นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ โพสต์เฟซบุ๊กว่า เมื่อวานตอนเย็น นั่งดู live กับลูกๆ เห็นพี่ตั้น อยู่ในวงล้อมของชุมนุม ลูกๆ ถามว่า “พ่อทำอะไรผิดเหรอคุณแม่” เราอธิบายเด็กๆไปว่า “พ่อมาทำงานการเมือง มาบริหารกระทรวงศึกษา ที่ต้องดูแลด้านการศึกษาของทั้งประเทศ เมื่อนักเรียนมาเรียกร้อง มาแสดงออก พ่อต้องรับฟัง”
ภาพการชุมนุมวันนั้น คือ ตัวตนของพี่ตั้น การเป็นตัวของตัวเอง ถอดหัวโขน ควบคุมสติ และ “เปิดใจ” นั่งล้อมวงรับฟังน้องๆ ซึ่งถึงแม้แกนนำบางคนบนเวทีจะพูดจารุนแรงและบริเวณโดยรอบก็มีคนบางกลุ่มที่พยายามก่อกวน ซึ่งไม่ใช่น้องๆ นักเรียนเลย แต่พี่ตั้นก็อดทนและใจเย็นได้ดีทีเดียว
พี่ตั้น ยืนยันว่า จะขอเจอกลุ่มน้องแกนนำนักเรียนโดยตรงด้วยตัวเอง จะได้แลกเปลี่ยนคำถามหรือข้อสงสัยของเด็กๆ ไปสู่การแก้ปัญหาได้ตรงจุดและสื่อสารออกไปให้ชัดเจนว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เสียดายที่แกนนำบนเวที ไม่ยอมให้ไปพูดคุย หรือรับข้อร้องเรียนบนเวทีได้อย่างที่ตั้งใจ และให้ไป “ต่อแถว”
แต่การได้ไปอยู่แถวด้านหลังอย่างที่น้องๆ ต้องการ ได้พูดคุยและรับฟังจากน้องๆ นักเรียน ถึงจะแค่บางส่วนแต่ก็เป็นสาระสำคัญ น่าชื่นชมที่น้องๆ แสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา มีความฉะฉานถึงจุดยืนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา ซึ่งนับเป็นเรื่องน่ายินดี การที่พี่ตั้นเสนอการเปิดเวทีให้นักเรียนได้แสดงความเห็น ก็เป็นโอกาสที่ดี แค่ต้องอยู่ภายใต้กรอบและขอบเขตของหลักการตามหลักประชาธิปไตยเหมือนที่น้องๆ เรียกร้องอยู่นั่นเอง
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของแกนนำมาก่อนเช่นกัน มีความเชื่อจนถึงทุกวันนี้ว่าการทำสิ่งที่ถูกต้อง มีจุดยืนที่ชัดเจน ถึงแม้ตอนนี้เปิดใจเพื่อรับ “ฟัง” สิ่งที่ทำในอดีต เราก็จะไม่คิดเสียใจ เพราะต่างเวลา ต่างบริบทในการเรียกร้อง ส่วนพวกมาแอบแฝง พยายามปลุกปั่นให้แตกแยก เราต้องระวัง ไม่ให้ใช้เด็กซึ่งเป็นพลังบริสุทธิ์เป็นเครื่องมือ เพราะการเป็นแม่วัยรุ่นลูกสาม เราคงยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้แน่นอน ฝากพ่อๆแม่ๆพูดคุยกับลูกในทุกปัญหาของพวกเค้า ด้วยการเปิดหู รับฟัง และเปิดใจ รับรู้ถึงปัญหา ไม่ครอบงำแต่อธิบาย ความจริงคือหนทางของการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดค่ะ
ขณะที่วันนี้ (21 ส.ค. 63) โรงเรียนราชินี ส่งจดหมายถึงผู้ปกครอง โดยมีชื่อเรื่องว่า “การเรียกร้องทางการเมืองของนักเรียน โดยอ้างถึงประชาธิปไตย” ระบุว่า ขณะนี้มีการเรียกร้องทางการเมือง โดยอ้างประชาธิปไตยโดยนักเรียน นิสิต นักศึกษา ซึ่งมีนักเรียนของโรงเรียนราชินีเข้าร่วมการชุมนุมด้วย
“โรงเรียนจึงขอชี้แจงว่า สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานกำเนิดโรงเรียนราชินี เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2447 เพื่อให้กุลสตรีไทยได้มีโอกาสเล่าเรียน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
“โรงเรียนราชินี จัดการเรียนการสอนโดยยึดมั่นในสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พื้นที่โรงเรียนไม่เคยใช้ในทางการเมือง และไม่อนุญาตให้กลุ่มบุคคลใดมาใช้พื้นที่ ไม่ว่าจะอ้างเป็นขบวนการประชาธิปไตยอื่นใดในทางการเมือง เพราะโรงเรียนต้องวางตัวเป็นกลาง
“แต่ปรากฏว่า ในช่วงเวลานี้มีนักเรียนหลายคนใช้พื้นที่โรงเรียนเพื่อประเด็นทางการเมือง มีความฝักใฝ่ขบวนการการเมืองนอกโรงเรียน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางการเมือง เสี่ยงต่อความผิดทางกฎหมาย สร้างความไม่สงบภายในโรงเรียน โดยนักเรียนกลุ่มดังกล่าวกลับกระทำการที่ไม่เป็นหลักประชาธิปไตย ใช้วิธีข่มขู่นักเรียนอื่นที่เห็นต่าง ที่สำคัญก้าวล่วงสถาบันหลักของประเทศ ทำให้สังคมเข้าใจว่า โรงเรียนราชินี สนับสนุนการไม่มีสถาบันกษัตริย์ อันขัดต่อจุดยืนของโรงเรียน”
โรงเรียนขอใช้สิทธิ์ไม่อนุญาตให้นักเรียนก้าวล่วงสถาบัน และกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อระเบียบโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นการเคารพธงชาติ ข่มขู่นักเรียนคนอื่น หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษตามกฎระเบียบ หากผู้ปกครองไม่พอใจที่โรงเรียนแจ้งนี้ โรงเรียนยอมรับ “สิทธิ์ของผู้ปกครอง” ที่จะนำนักเรียนลาออกไปเรียนที่โรงเรียนอื่น
ขณะที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ชี้แจง กรณีมีข่าวว่า โรงเรียนไม่อนุญาตให้เด็กนักเรียนชู 3 นิ้ว หากไม่พอใจสามารถพาผู้ปกครองมาทำเรื่องลาออกได้ โดยยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง