ไม่พบผลการค้นหา
The Toppick - อินโดฯ จ่อใช้กฎหมาย 'อยู่กิน แต่ไม่แต่ง' ติดคุก - Short Clip
The Toppick - จีน เปิดตัวมาสคอตโอลิมปิก 2022 แพนด้าปิงตวนตวน - Short Clip
The Toppick - เอกวาดอร์ประท้วงใหญ่ รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน - Short Clip
The Toppick - ไฮเปอร์ลูปเวอร์จินแซงเทสลา อินเดียจัดเป็นโครงสร้างพื้นฐานไม่ต่างจากรถไฟ - Short Clip
The Toppick - รถยนต์ไฟฟ้า รักษ์โลกหรือแค่ไลฟ์สไตล์ - Short Clip
The Toppick - แท็กซี่ลอยฟ้า เทรนด์อนาคตที่ใกล้ความเป็นจริงขึ้นทุกที - Short Clip
The Toppick - เกาหลีใต้บอยคอตต์เบียร์ญี่ปุ่น นำเข้าลด 97 เปอร์เซ็นต์ - Short Clip
The Toppick - นักกีฬาอีสปอร์ตมีความเสี่ยงด้านสุขภาพ - Short Clip
The Toppick - ศาลสูงอียูตัดสิน 'กูเกิล' ไม่ต้องให้ 'สิทธิที่จะถูกลืม' ในพื้นที่นอกยุโรป - Short Clip
The Toppick - ออสเตรเลีย เปิดโครงการเติมเต็มคำขอสุดท้ายให้ผู้ป่วยหนัก - Short Clip
The Toppick - ญี่ปุ่นร้อน ผู้ชายหันมาใช้ร่มกันแดดตามคำแนะนำรัฐบาล - Short Clip
The Toppick - เนปาลจ่อกำหนดประสบการณ์ขั้นต่ำก่อนปีนเอเวอร์เรสต์ - Short Clip
The Toppick - 'แก่ก่อนรวย' เศรษฐกิจไทยพัฒนาไม่ทันสังคมสูงวัย - Short Clip
The Toppick - ออสเตรเลีย จ่าย 1 ล้านบาท จูงใจครูไปสอนโรงเรียนชนบท - FULL EP.
The Toppick - อินโดฯระบุพิกัดเมืองหลวงใหม่ กระจายความเจริญ-หนีเมืองจมน้ำ - Short Clip
The Toppick - โลกร้อนอาจทำให้คนกัมพูชาอดตาย - Short Clip
The Toppick - พิวดีพาย นักแคสต์เกมคนแรก ที่มีผู้ติดตามยูทูบ 100 ล้าน - Short Clip
The Toppick - เยอรมนี เตรียมออกกฎหมายแบนถุงพลาสติก - Short Clip
The Toppick - อาชญากรรมในบาร์เซโลนาเพิ่มขึ้น 30% ในครึ่งปีแรก - Short Clip
The Toppick - 'พอร์นฮับ' ผุดแคมเปญ 'ดูคลิปโป๊ช่วยโลก' - Short Clip
The Toppick - ศาลฝรั่งเศสสั่ง เกมดิจิทัลเล่นแล้ว ต้องขายต่อมือสองได้ - Short Clip
Sep 24, 2019 00:24

ศาลชั้นต้นกรุงปารีส ตัดสินให้สตีม แพลตฟอร์มจำหน่ายเกมดิจิทัล ต้องอนุญาตให้ผู้ใช้งาน ซึ่งซื้อสิทธิการเข้าถึงเกมซึ่งเป็นไฟล์ดิจิทัลไปแล้ว สามารถขายเกมต่อให้ผู้อื่นได้ ทางสตีมมีแผนยื่นอุทธรณ์

การซื้อขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลมือสองนั้นเป็นประเด็นมาหลายปีแล้ว โดยศาลแต่ละประเทศก็มีมุมมองต่อประเด็นนี้ต่างกันไป โดยปัญหาของการซื้อขายสินค้าดิจิทัลมือสองนั้น อยู่ที่สินค้าเหล่านี้เป็นไฟล์ดิจิทัลที่ไม่มีวันเสื่อมสลายหรือหมดไป ต่างจากสินค้าที่เป็นวัตถุจับต้องได้ เช่น หนังสือย่อมมีการเสื่อมตามเวลาด้วยความชื้นและอายุของกระดาษ อาจเปลี่ยนสี มีกลิ่น ยับ หรือขาด มีมูลค่าลดลงเมื่อแกะออกจากหีบห่อ ขณะที่อีบุ๊กนั้นเป็นไฟล์หนังสือที่อ่านผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเปลี่ยนมือกี่ครั้งไฟล์ดังกล่าวก็ยังคงเดิมไม่เสื่อมเหมือนกระดาษ

คุณสมบัติที่ไม่เสื่อมสลาย มูลค่าจึงไม่ลดลง ส่งผลให้เกิดคำถามว่าการขายสินค้ามือสองดิจิทัลนั้นชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมหรือไม่ เนื่องจากสินค้ามือสองที่ไม่ต่างจากสินค้ามือหนึ่งจากผู้ผลิตเองเลย แต่อาจถูกขายได้ด้วยราคาที่ต่ำกว่าได้ จึงย่อมส่งผลกระทบต่อการค้าของผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอย่างแน่นอน

ในกรณีของวิดีโอเกมที่เป็นไฟล์ดิจิทัลก็เกิดปัญหาลักษณะเดียวกันเมื่อสตีม (Steam) แพลตฟอร์มเกมรายใหญ่ถูกยูเอฟซี-เกอ ชัวซีร์ (UFC-Que choisir) กลุ่มคุ้มครองผู้บริโภคฝรั่งเศส ฟ้องร้องในเรื่องการจำกัดสิทธิการขายเกมที่ซื้อมาแล้วต่อในปี 2015

ทั้งนี้ สตีมเป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายเกมดิจิทัล ของบริษัทวาล์ว คอร์ปอเรชั่น (Valve Corporation) ที่เป็นตัวกลางให้ผู้ผลิตเกมจัดจำหน่ายสู่ผู้เล่นหรือผู้ใช้งาน โดยสตีมจะเก็บส่วนแบ่งจากการขาย ปัจจุบันมีผู้ใช้งานถึง 1 พันล้านบัญชี และมีผู้ใช้งานสม่ำเสมอ 90 ล้านรายต่อเดือน

ล่าสุด วันที่ 17 กันยายน ศาลชั้นต้นกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสตัดสินแล้วว่าผู้ซื้อเกมชาวยุโรปสามารถขายต่อเกมที่ซื้อผ่านสตีมเป็นสินค้ามือสองได้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ต่างจากเกมแบบแผ่นหรือตลับ

ทั้งนี้ บริการจำหน่ายเกมผ่านแพลตฟอร์มสตีมนั้น แตกต่างจากการขายแผ่นหรือตลับเกม เนื่องจากเมื่อผู้ใช้งานต้องการเล่นเกมที่ซื้อผ่านสตีมนั้น จะต้องล็อกอินผ่านสตีม โดยสามารถเล่นผ่านคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้ตราบเท่าที่เข้าสตีมผ่านไอดีที่ทำการซื้อเกมไว้ แต่หากไม่มีสตีมหรือไม่ได้ล็อกอินผ่านไอดีสตีม ก็จะไม่สามารถเล่นเกมที่ซื้อได้ต่อให้มีไฟล์อยู่ในเครื่องก็ตาม เป็นลักษณะของการซื้อสิทธิการใช้งานมากกว่าการซื้อสินค้า

ในคดีนี้ ทางทนายของวาล์ว จึงพยายามแย้งว่าแพลตฟอร์มสตีมเป็นการให้บริการซับสไครบ์ หรือสมัครรับข้อมูล (subscription service) ทว่าทางศาลปฏิเสธข้อต่อสู้ของวาล์วว่าการขายเกมของสตีมไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการบริการซับสไครบ์ และเป็นการขายขาดสินค้าให้โดยถาวร ไม่มีการหมดอายุแบบบริการซับสไครบ์

ทางศาลฝรั่งเศสชี้อีกว่านโยบายจำกัดสิทธิการขายต่อเกมที่ซื้อมานั้น ขัดต่อกฎหมายของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับสินค้าดิจิทัล ซึ่งออกมาเพื่อป้องกันการจำกัดการโยกย้ายสินค้าโดยเสรีภายในสหภาพ ซึ่งตามกฎของสหภาพยุโรปนั้นระบุว่าสามารถจำหน่ายสินค้าทุกชนิดรวมถึงซอฟต์แวร์ได้ โดยไม่ต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ผลิตหรือผู้ค้ามือแรก

ตามคำตัดสินนี้ วาล์วมีเวลาหนึ่งเดือนในการปฏิบัติตามและแก้ไขข้อตกลงการใช้บริการ แม้ว่าจะมีแนวโน้มที่จะถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากกระบวนการอุทธรณ์

ด้าน ดั๊ก ลอมบาร์ดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของวาล์ว ระบุว่า ทางบริษัทมีแผนจะยื่นอุทธรณ์ต่อเพื่อสู้คดีที่อาจเปลี่ยนอนาคตของธุรกิจได้ เพราะไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลชั้นต้นกรุงปารีส และจะยื่นอุทธรณ์ คำตัดสินนี้จะไม่มีผลใดๆ กับสตีมระหว่างที่อุทธรณ์คดี โดยนโยบายปัจจุบันของสตีมนั้นห้ามการขายต่อเกมที่ซื้อมาโดยเด็ดขาด ความพยายามใดๆ ในการขายต่อจะส่งผลให้ผู้ใช้ถูกระงับการใช้งานบัญชี

นอกจากการปรับแก้ข้อตกลงในการให้บริการแล้ว วาล์วต้องเผยแพร่คำตัดสินของศาลบนแพลตฟอร์มของสตีมเป็นเวลา 3 เดือน มิเช่นนั้นจะต้องจ่ายค่าปรับ 3,000 ยูโรต่อวัน (ประมาณ 1 แสนบาท) สูงสุด 6 เดือน หมายความว่าวาล์วอาจต้องจ่ายค่าปรับสูงุสด 540,000 ยูโร (ประมาณ 18 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม มีการประเมินว่าในปี 2017 เพียงปีเดียว วาล์วมีรายได้ประมาณ 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 131,000 ล้านบาท)


Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog