ทั่วโลกร่วมไว้อาลัยแด่ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เจ้าพ่อวงการแฟชั่นโลกผู้ล่วงลับ และสิ่งที่จะทำให้คนทั้งโลกระลึกถึงเขาคนนี้ตลอดไปคือผลงานที่สั่งสมหลายทศวรรษที่ยากจะลืมเลือน
คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เจ้าพ่อวงการแฟชั่นโลกชาวเยอรมัน และอดีตผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ชาแนลและเฟนดิ เสียชีวิตลงแล้วในวัย 85 ปี ที่โรงพยาบาลในกรุงปารีส ของฝรั่งเศส หลังต่อสู้กับปัญหาด้านสุขภาพมานาน โดยลาเกอร์เฟลด์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกะทันหันในคืนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ในช่วงค่ำของวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาว่าสาเหตุการเสียชีวิตของลาเกอร์เฟลด์นั้นคืออะไร ขณะที่ แบรนด์ชาแนล ที่ลาเกอร์เฟลด์ทำงานด้วยมา 36 ปีเต็ม ก็ได้ออกมาโพสต์แถลงการณ์ถึงการจากไปของราชาแห่งวงการแฟชั่นว่าเป็นเรื่องจริง และรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เขาได้จากโลกนี้ไป แต่เหนือสิ่งอื่นใด ชาแนลได้กล่าวยกย่องถึงคุณงามความดีที่ลาเกอร์เฟลด์มีต่อวงการแฟชั่น ที่เป็นผู้บุกเบิกโลกแฟชั่นยุคใหม่และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ที่มีอัจฉริยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์อย่างยากที่จะหาใครเทียบได้
ขณะที่ สถานการณ์ในโซเชียลมีเดียก็มีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาคนดังระดับโลกที่เคยมีโอกาสใกล้ชิดหรือร่วมทำงานกับลาเกอร์เฟลด์ ก็ออกมาแสดงความอาลัยผ่านทั้งทวิตเตอร์และอินสตาแกรมมากมาย อย่างเช่น เบลลา ฮาดิด , ลินซี โลฮาน , ลิลลี โรส , ลิลลี แอลเลน , ไรอัน ซีเครส , คริส เจนเนอร์ , คิม คาดาร์เชียน , เดวิด เบ็คแฮม รวมไปถึงแอคเคานต์ทางการของแบรนด์ดังอื่น ๆ อย่าง ดิออร์ , มาร์คเจคอป , บาร์บี และโซเชียลมีเดียทางการของทีมคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เองด้วย
ก่อนหน้านี้ มีการตั้งข้อสังเกตกันในวงการแฟชั่นเกี่ยวกับสุขภาพของลาเกอร์เฟลด์มาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากลาเกอร์เฟลด์ไม่ได้ไปร่วมแฟชั่นโชว์ของชาแนลเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทางนิตยสารฮาร์เปอร์ส บาซาร์ ได้ระบุว่า ลาเกอร์เฟลด์ไม่เคยพลาดที่จะเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์แม้แต่ครั้งเดียว นับตั้งแต่เขาเริ่มร่วมงานกับชาแนลในปี 1983 ซึ่งทางแบรนด์ชาแนลเคยออกแถลงการณ์ชี้แจงสาเหตุที่ลาเกอร์เฟลด์ไม่ไปร่วมงานแฟชั่นโชว์ว่า ลาเกอร์เฟลด์รู้สึกเหนื่อย ส่วนพิธีกรของงานวันนั้นก็กล่าวว่า 'พวกเราขอให้ลาเกอร์เฟลด์หายไว ๆ ' แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ณ ขณะนั้น
ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา ลาเกอร์เฟลด์ได้พิสูจน์ให้คนทั่วโลกได้เห็นอยู่ตลอดเวลาว่าแบรนด์ชาแนลนั้นมีความยิ่งใหญ่มากแค่ไหน ดูได้จากการจัดแฟชั่นโชว์แต่ละครั้งที่มักจะเรียกเสียงฮือฮาได้ทุกปี เพราะความยิ่งใหญ่อลังการของการจัดแฟชั่นโชว์ที่ทำให้คนพูดถึงได้ตลอดทั้งปี อย่างเช่นการเนรมิตรันเวย์ให้กลายเป็นสนามบินชาแนล มีนางแบบเดินกันขวักไขว่ราวกับอยู่ในสนามบินจริง หรือจะเป็นการสร้างศูนย์การค้าของชาแนลเพื่อการเดินแฟชั่นโชว์ การสร้างป่าเสมือนจริงที่มีต้นไม้ใหญ่และใบไม้มากมายบนพื้น ไปจนถึงการสร้างทะเลจำลอง หรือการเนรมิตหอไอเฟลในร่มก็ทำมาแล้วเช่นกัน
หากมองลึกลงไปในรายละเอียดการออกแบบในแต่ละปีจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ลาเกอร์เฟลด์มีความสามารถอย่างมากในการออกแบบไอเท็มใหม่ ๆ ที่ทำให้ทั้งโลกต้องพูดถึง อย่างกระเป๋าทรงฮูลาฮูปในปี 2013 กระเป๋ารูปทรงตะกร้าซูเปอร์มาร์เก็ตในปี 2014 และกระเป๋ารูปทรงถังน้ำมันในปี 2015 อย่างไรก็ตาม ลาเกอร์เฟลด์ก็ไม่ยอมทิ้งลายเซ็นของตัวเองในทุกคอลเล็กชันอย่างเช่นเสื้อแจ็กเก็ตผ้าทวีตที่แม้จะมีราคาที่สูงมาก แต่คุณผู้หญิงที่เป็นเจ้าของก็สามารถใส่ได้ในทุกโอกาส ตั้งแต่งานเลี้ยงธรรมดา ๆ ไปจนถึงงานสังคมหรู หรือแม้แต่จะใส่มาดูแฟชั่นโชว์ก็เหมาะสมอย่างยิ่งเช่นกัน
ส่วนซิกเนเจอร์ส่วนตัวที่ทำให้คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เป็นที่จดจำมากที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือเสื้อผ้าหน้าผมของเขาที่แม้มองแค่หางตาก็รู้ว่านี่คือเจ้าพ่อแห่งวงการแฟชั่นโลก ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่มีเอกลักษณ์อย่างมาก เริ่มตั้งแต่สูทดิออร์สีดำเรียบหรูที่ใส่เป็นประจำ ไปจนถึงแว่นตาสีดำขนาดโอเวอร์ไซซ์ ผมสีขาวสนิททั้งหัว มองดี ๆ จะเข้าใจเลยว่าเพราะอะไรผู้คนถึงเปรียบเขาว่าเป็น The King of Fashion ตัวจริง ซึ่งไม่เพียงแต่การแบรนดิงตัวเองด้วยการแต่งตัวเท่านั้น ลาเกอร์เฟลด์ยังชื่นชอบที่จะออกสื่ออีกด้วย นั่นยิ่งทำให้โลกรู้ว่าชาแนลคือแบรนด์เก่าแก่สุดคลาสสิกที่ไม่เคยตกกระแสแม้แต่นาทีเดียว
นอกจากการคุมบังเหียนของแบรนด์ระดับโลกอย่างเฟนดิที่เริ่มต้นในปี 1965 และการเริ่มทำงานกับชาแนลในปี 1983 แล้ว ลาเกอร์เฟลด์ยังสร้างแบรนด์ใหม่โดยใช้ชื่อของเขาเองในแบรนด์ Karl Lagerfeld ที่มีสินค้าหลากหลายทั้งรองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า โดยสไตล์โดยรวมนั้นถือว่าโมเดิร์นและเหมาะกับคนรุ่นใหม่อย่างมาก ถือเป็นไลน์แฟชั่นที่ฉีกกรอบออกมาจากแบรนด์ใหญ่ที่คาร์ลออกแบบให้อย่างชัดเจน และที่สำคัญก็คือโลโก้คาแร็กเตอร์ของลาเกอร์เฟลด์ที่น่ารักสดใส เคียงคู่มากับน้องแมวสุดที่รักสายพันธุ์เบอร์แมนอย่าง 'ชูเป็ตต์' ก็มาร่วมสร้างสีสันในคอลเล็กชันได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม การสูญเสียบุคคลสำคัญในวงการแฟชั่นโลกเช่นนี้นำไปสู่คำถามที่ว่า 'ใคร' จะกลายมาเป็นผู้สานต่ออุดมการณ์และอาณาจักรที่คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ที่สร้างไว้ ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนใหม่ของชาแนล คำตอบที่ได้ก็เป็นไปตามคาด นั่นคือ 'เวอร์ฌินี วิอารด์' ผู้อำนวยการสตูดิโอฝ่ายสร้างสรรค์แฟชั่นของแบรนด์ชาแนล บุคคลสำคัญที่คอยทำงานอยู่เบื้องหลังเคียงบ่าเคียงไหล่ลาเกอร์เฟลด์มานานร่วม 30 ปี
โดย 'เวอร์ฌินี วิอารด์' ได้ปรากฏตัวเคียงข้างลาเกอร์เฟลด์ต่อสาธารณะครั้งแรกในการออกมาโค้งคำนับรับเสียงปรบมือหลังแฟชั่นโชว์คอลเล็กชันครูส 2018 เมื่อกลางปีที่แล้วได้จบลง ซึ่งเป็นการเปิดตัวดีไซเนอร์คนใหม่ครั้งแรกของชาแนลในรอบ 36 ปี ซึ่งหลังจากนั้นภาพต่าง ๆ ก็เริ่มชัดเจนขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อ 'เวอร์ฌินี วิอารด์' ได้รับบทบาทสำคัญในการออกมาโค้งคำนับผู้ชมในฐานะดีไซเนอร์ของชาแนล เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ในสัปดาห์โอต์กูตูร์ครั้งล่าสุดกับคอลเล็กชัน สปริง/ซัมเมอร์ 2019 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป