รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 12 พฤษภาคม 2563
“อ.วิโรจน์” ยกคำสัมภาษณ์ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ชี้ผู้ร่วมสั่งการ “สั่งสลายม็อบคนเสื้อแดง” ยังได้ดิบได้ดี เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลสืบทอดอำนาจ แถมทวนความจำ รัฐบาลประชาธิปัตย์ แม้ส่งตัวแทนเจรจา แต่กลับเปลี่ยนตัว ยังสร้างความเกลียดชังต่อคนเสื้อแดง “อ.หญิง-อรุณี” ก็หวัง “คนรุ่นใหม่” เรียนรู้ความทรงจำและหาความจริงจากปมสลายม็อบ นปช.
ย้อนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2553 ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. โดย พ.อ. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศอฉ. (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) แถลงหลังการประชุม ศอฉ. ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการศอฉ. (ตำแหน่งในขณะนั้น) เป็นประธาน
โฆษก ศอฉ. ยืนยัน การชุมนุมเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ก่อความเดือดร้อน ที่สำคัญคือมีกลุ่มก่อการร้าย มีกองกำลังติดอาวุธแฝงตัวปะปนอยู่ในพื้นที่การชุมนุม ซึ่งพื้นที่การชุมนุมที่ราชประสงค์เป็นพื้นที่ ขณะเดียวกัน แม้รัฐบาลประกาศแผนปรองดอง 5 ข้อ และ นายสุเทพ ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอแล้ว แต่ แกนนำ นปช.ยังสร้างเงื่อนไขต่อ ศอฉ. จึงมีมติ ใช้มาตรการกดดันพื้นที่การชุมนุมอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่เที่ยงคืน / โดยเริ่มต้นตั้งแต่วิธีการที่ไม่ใช้กำลังก่อน ด้วยการกำหนดตัดน้ำไฟ สาธารณูปโภค โทรศัพท์ การเดินทางในลักษณะของการใช้การบริการสาธารณะ รถเมล์ รถไฟฟ้า เส้นทางน้ำในคลองแสนแสบ ในบริเวณพื้นที่ชุมนุมทั้งหมด จะมีการปิดเส้นทางเข้า - ออก เส้นทางการส่งกำลังบำรุงให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมขออภัยประชาชน ผู้ประกอบการ และหน่วยงานต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ ยังประชุมผู้ว่าฯ 38 จังหวัด ทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ตัวเอง ไม่ให้เดินทางมาร่วมชุมนุมเพิ่ม
ต่อข้อถามว่า แสดงว่าขณะนี้ฝ่ายกองทัพพร้อมแล้วที่จะใช้กำลังทหารในการขอพื้นที่คืน โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า เราพร้อมนานแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ตนก็ยังไม่อยากที่จะพูดถึงเรื่องการสลายการชุมนุม การบังคับใช้กฎหมายและกดดันพื้นที่แบบเต็มรูปแบบจะได้เริ่มต้นตั้งแต่เที่ยง คืนวันนี้เป็นต้นไป เพราะนายกรัฐมนตรีได้กำหนดวันเวลาที่ชัดเจนแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีทอดสะพานเพื่อความปรองดองอย่างที่สุดแล้ว แต่แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมได้แสดงออกมานั้นเป็นเงื่อนไขรายวัน
ในวันเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ยืนยันว่า ได้ประกาศท่าทีสุดท้ายอย่างชัดเจนว่า เราตอบรับวันเลือกตั้ง 14 พ.ย.และวันยุบสภาไปแล้ว มาตรการที่ได้มีการนำเสนอมานั้นเราก็ได้ตอบรับไปแล้ว แต่ติดค้างเรื่องเดียวคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่งคง ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอน ถ้ามีการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้องเมื่อไหร่เราก็ประกาศยุติ การชุมนุมทันที แต่ถ้านายสุเทพยังเล่นแง่ศรีธนญชัยเช่นนี้ ใช้อำนาจเล่นละครตบตาประชาชนแบบนี้ (รับทราบข้อกล่าวหากับดีเอสไอ ทั้งที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา) เรารับไม่ได้ ยืนยันว่าจะปักหลักสู้อยู่ที่นี่จนกว่าจะได้รับความยุติธรรม ถ้าหากเราจะลงจากเวทีการต่อสู้โดยไม่อาจอธิบายกับคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตไป กว่า 21 ชีวิตได้ว่าจะทวงถามความยุติธรรมอย่างไร เราก็จะอยู่ที่นี่ เป็นไงเป็นกัน เรายินดีที่จะเอาอิสรภาพของเราเป็นเดิมพันเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมต่อไป เราจะรอพวกท่านอยู่ที่นี่ด้วยมือเปล่าๆ สันติวิธี นี่เป็นท่าทีสุดท้าย เราจะไม่แสดงท่าทีนี้อีก