รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 20 เมษายน 2563

“คำผกา” จัดหนักคอมโบ้เซ็ท! มองการมีอยู่ของ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เหมือนเป็นข้ออ้างที่มีไว้เพื่อคุมประชาชน แถมมีแววจะใช้จนกว่าจะไม่มีการระบาด เปรย! สงสัย“ต้องรอชาติหน้า” 

ขณะที่ “หมอเลี้ยบ-นพ.สุรพงษ์” ผู้เชี่ยวชาญระบาดวิทยา ชี้ พ.ร.ก. ไม่เกี่ยวกับการคุมโรค ยิ่งใช้ พ.ร.ก. สะท้อนรัฐคุมโรคไม่ได้ จริง ๆ แค่ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ก็ทำได้แล้ว

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า การที่ประชาชนเริ่มออกมาข้างนอกมากขึ้นเสี่ยงติดเชื้อแน่นอน เพราะแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดลดลง แต่ยังไม่ได้หายจากโลกนี้ ยังวนเวียนอยู่รอบๆ เชื้ออยู่กับใครก็ได้ แต่ยังไม่แสดงอาการ ประเทศไทยเราทำกรอบป้องกันไม่ให้คนติดเชื้อมาเดิน ส่วนประเทศอื่นอาจจะไม่เชื่อเราจึงทำให้มีการเสียชีวิตหลายหมื่นคน ส่วนของไทยก็ต้องชั่งน้ำหนักกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นการออกมาจำนวนมากๆ พร้อมกันก็เสี่ยง ขอให้ทำงานที่บ้านได้ไหม ถ้าไม่ได้ โรคมันจะอยู่กับเราอีกนาน ถ้าเราดูแลกันหมดและควบคุมได้

เมื่อถามว่าช่วง 1-2 วันมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาผิดคนที่มาแจกข้าว นพ.ศิลป์ กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น ซึ่งเรื่องนี้นายกฯได้สั่งการให้หน่วยงานโดยเฉพาะในเขต กทม. จัดเจ้าที่เข้าไปช่วยจัดระเบียบ ระบบที่ดี การช่วยคนที่มารับบริจาคว่า คนให้ก็สุขใจคนรับต้องปลอดเชื้อด้วย

เมื่อถามว่าขณะนี้มีการปล่อยข่าวปลอมว่ามีการแจกสิ่งของ แจกเงินในหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนไปรอจำนวนมาก แต่ไม่มีการแจกจริง จะทำให้เสี่ยงติดเชื้อหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า คนที่ปล่อยข่าวแบบนี้ได้ประโยชน์อะไร เพราะเป็นการสร้างความหวังให้กับพี่น้องประชาชนที่เขาทุกข์ยากลำบากอยู่แล้ว เพราะเมื่อมารวมกลุ่มกันมีโอกาสติดโรคไป จะทำให้รู้สึกผิดความรู้สึกไม่ดีได้ เพราะการติดโรคไม่ได้เกิดขึ้นวันนี้ พรุ่งนี้ แต่ต้องรอดูอาการ 7-14 วัน  เพราะฉะนั้นอย่าทำเลยไม่ได้ประโยชน์อะไรกับใครทั้งสิ้น ขอให้คนที่จะบริจาคแจ้งไปยังทุกเขต ที่จะได้จัดเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกให้ท่านได้ สุขใจทั้งคนให้ คนรับก็ปลอดจากเชื้อโรค

ส่วนกรณี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายแพทย์ทวีศิลป์ เปิดเผยว่า ในการประชุม ศบค. พล.อ.ประยุทธ์ ชื่นชมประชาชน ที่ช่วยกันทำให้ตัวเลขด้านการติดเชื้อลดลงเหลือ 2 หลัก ชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกระดับ อยากให้ดูแลเบี้ยเลี้ยงค่าใช้จ่าย และขอให้กำลังใจในการดูแลประชาชน

เรื่องของการคงอยู่ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังมีความจำเป็นในสถานการณ์นี้ ซึ่งรัฐบาลจะหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวาระถัดไป ในส่วนของการมีการผ่อนคลาย ต้องมีมาตรการออกมาก่อน ตอนนี้ มอบให้ส่วนราชการและผู้ประกอบการต่างๆ ไปปรึกษาหารือ และเสนอขึ้นมาว่าจะมีมาตรการอย่างไร

โดยยกตัวอย่าง เช่น สนามกีฬา ตลาดสด ว่าต้องมีการจัดระเบียบอย่างไร พื้นที่ไหนปลอดภัย พื้นที่ไหนไม่ปลอดภัย เช่น จังหวัดไหนไม่มีการติดเชื้อเลยก็อาจจะผ่อนคลาย รวมทั้งไปศึกษาบทเรียนจากต่างประเทศที่ผ่อนคลายว่ามีมาตรการอย่างไร และต้องมีสมดุลระหว่างการติดเชื้อกับเศรษฐกิจให้เดินด้วยกันอย่างปลอดภัย