รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 22 เมษายน 2563
“คำผกา” จัดให้ชุดใหญ่! ให้ “หมอทวีศิลป์” ไปถาม “ประยุทธ์” ก่อนว่าดูแลคนไทย ดีพอหรือยัง หลังตอบนักข่าวว่า ให้คนไทยอดทน รักษาตัวให้ปลอดภัยไม่เป็นโรค เงินทองเดี๋ยวหาใหม่ได้ อย่ามาเทียบต่างประเทศ เพราะระบบดูแลคนดีกว่าเยอะ
“อ.พิชญ์ “ ชี้ รัฐบาลเห็นใจคน แต่ไม่เคยเข้าใจ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 / พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 คน (สะสม 2,826 คน) จำนวนผู้ที่หายปวยแล้วรวมทั้งสิ้น 2,352 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน (สะสม 49 คน) เป็นหญิงไทยวัย 58 ปี มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ภาวะอ้วน ประวัติสัมผัสลูกสาวเป็นผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าว ทำให้เรียนรู้ว่าการ์ดตกนิดหน่อยไม่ได้เลย ขณะที่เราทำได้ดี แต่มาตรการที่เราทำดีมาตลอดถ้าแก้ไขนิดเดียวสิ่งที่ทำมาจะไม่ได้ผลอะไร เหมือนที่ ผอ.ศบค.(พล.อ.ประยุทธ์) พูดว่า ถ้าผ่อนปรนมากไป แล้วติดเชื้อ จะทำให้สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดร่วมเดือน พังทลาย
นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยว่า มีการวิเคราะห์สถานที่พบผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทย คือ สถานที่แออัด หรือ สถานที่ชุมนุมที่ผู้ป่วยแจ้งว่าเคยเดินทางไปในช่วง 14 วันก่อนเริ่มป่วย / โดย ข้อมูลจาก 84 ราย พบว่า ในกรุงเทพมหานคร(กทม.) ผู้ป่วยมีประวัติเดินทางไปที่
1.สถานบันเทิง สนามมวย สถานที่มั่วสุมเพื่อเล่นการพนัน โรงภาพยนต์
2.ซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้องออกกำลังกาย วัด ร้านเสริมสวย มหาวิทยาลัย ร้านอาหาร
3.พื้นที่ท่องเที่ยว เช่น ซอยทองหล่อ
4.ตลาด ห้างสรรพสินค้า
5.การใช้ขนส่งสาธารณะ
6.สถานที่ทำงาน สถานพยาบาล
ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัด ผู้ป่วยมีประวัติเดินทางไปที่
1.สนามบันเทิง สนามมวย สถานที่มั่วสุมเพื่อเล่นการพนัน
2.ซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า
3.พื้นที่ท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต หาดใหญ่ สงขลา ชะอำ
4.สถานที่ทำงาน สำนักงาน สถานพยาบาล
5.ตลาด วัด มัสยิด
การวิเคราะห์ว่าเป็นสถานที่แออัดในชุมชน เพื่อให้เป็นประโยชน์ในการวางมาตรการผ่อนปรนในพื้นที่และทางคณะรัฐมนตรีก็จะมีการพิจารณาในเชิงนโยบายอีกครั้ง สถานที่แออัดเหล่านี้มีความสำคัญเนื่องจากผู้ป่วยบางรายที่เสียชีวิต มีประวัติเดินทางไปยังสถานบันเทิง สถานที่มั่วสุมเล่นพนัน มีคนบอกว่า ไวรัสตัวนี้จะมาเปลี่ยนโลก เปลี่ยนชุดพฤติกรรมของโลกในด้านลบทั้งหลาย
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าบางจังหวัดเตรียมจะคลายล็อก ผ่อนผันให้มีการขายของในตลาดได้ ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อเหลือเลขตัวเดียว นพ.ทวีศิลป์ ยืนยันว่าการจะยกเลิกตอนนี้ยังไม่มี แต่เป็นลักษณะผ่อนปรน อาจมีการทดลองเป็นกลุ่มจังหวัด บางพื้นที่ หรือจะขยายทั้งประเทศต้องรอฟังมติจาก ครม.และมติ ศบค.เร็วๆนี้
นพ.ทวีศิลป์ ยังตอบข้อซักถามสื่อมวลชน กรณีมีข่าวปรากฎว่า ประชาชนเกิดความเครียดจากปัญหาไม่มีงานทำ หรือหนี้สิน รัฐบาลมีข้อห่วงใยอย่างไร ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ไม่เฉพาะแค่ ศบค.ที่ให้ความสำคัญด้านนี้ มีการพูดคุยกันถึงเรื่องต้นทาง คือ ไวรัสโควิด-19 ว่าจะต้องอยู่กันนานแค่ไหนเพียงไร / นำไปสู่เรื่องที่จะโยงไปถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี จะต้องมีการพิจารณาขยายมาตรการการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไปนานแค่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องที่รับทราบและเข้าใจได้ถึงผู้ที่เดือดร้อน โดยเฉพาะผู้ที่มีความเครียดเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะมีหลายสาเหตุ ไม่ใช่แค่เฉพาะไวรัส
แต่ตัวไวรัส ทำให้เกิดมาตรการของรัฐขึ้นมา จนนำไปสู่ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นมาตรการทั่วโลกที่ทำกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องมีความเข้าใจตรงนี้ก่อน แต่แนวทางแก้ไข ก็มีการจัดงบประมาณด้านสาธารณะสุข จัดสรรป้องกันควบคุมโรค อย่างไรก็ตาม ถ้าเริ่มต้นด้วยการควบคุมโรคได้ ความสูญเสียทางด้านจิตใจ ร่างกาย หรือสูญเสียคนที่เรารักไปนั้นก็จะน้อยลง เมื่อน้อยลงก็จะเหลือเงินมากขึ้นที่จะมาดูแลเศรษฐกิจตรงนี้ได้ ทางผอ.ศูนย์ฯ จึงเลือกดูแลสุขภาพมาก่อนและตามด้วยการเยียวยาทางด้านเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่า ‘เรารักษาตัวให้รอดปลอดภัยไม่เป็นโรค เงินทองเดี๋ยวหาใหม่ได้’