การเวนคืนที่ดิน 51 เฮกเตอร์ ย่านชานเมืองตอนเหนือกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อสร้างหมู่บ้านนักกีฬา ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตผู้คนนับพัน สร้างความไม่พอใจให้ชุมชน
ขณะที่ผู้คนทั่วโลกเตรียมต้อนรับการมาถึงของโตเกียวโอลิมปิก 2020 ในประเทศญี่ปุ่น ที่อีกฟากหนึ่งของโลกอย่างกรุงปารีส ของฝรั่งเศส ก็กำลังเตรียมการปรับปรุงพื้นที่เมือง เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับ ‘โอลิมปิกฤดูร้อน 2024’ เมื่อถึงคิวตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้า
พื้นที่ 51 เฮคเตอร์ทางชานเมืองตอนเหนือกรุงปารีส ย่านแซ็ง-เดอนี (Saint-Denis) และ แซ็ง-ทัว (Saint-Ouen) ถูกเลือกจัดสรรให้เป็นหมู่บ้านนักกีฬาที่จะรองรับผู้มาเยือนกว่า 10,000 คน เพราะเป็นพื้นที่ที่ใกล้สนามกีฬา สตาต เดอ ฟรองซ์ อันเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกรีฑา เป็นศูนย์กีฬาทางน้ำ และใช้จัดพิธีเปิด-ปิดโอลิมปิก ซึ่งนั่นเรียกร้องการเวนคืนพื้นที่ครั้งใหญ่ สำหรับโรงเรียน 3 แห่ง อพาร์ตเมนต์ 2 บล็อก โรงแรมและธุรกิจอีก 19 แห่ง ที่มีการจ้างงานกว่า 1,000 แรงงาน
บูแบการ์ ดัลโล ตัวแทนกลุ่มพนักงานจากโรงแรมที่มีการจ้างงาน 300 ตำแหน่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพจากแอฟริกาตะวันตก ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า พวกเขาถูกบอกให้ย้ายออกไป ทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปอยู่ที่ไหน พวกเขาไม่แน่ใจว่า ชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป และแม้ ซูลิเดโอ (Solideo) บริษัทเอกชนผู้รับผิดชอบการสร้างหมู่บ้านโปรเจกต์โอลิมปิก จะให้คำมั่นสัญญาว่า จะสร้างโรงแรมใหม่ทดแทนภายในปี 2022 แต่สิ่งที่พนักงานกังวลใจไม่ใช่เรื่องในอีก 3 ปีข้างหน้า แต่เป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเขา ณ ปัจจุบันนี้ต่างหาก
ดัลโล บอกต่อด้วยว่า บ้านพักชั่วคราวที่ทางการจัดหาให้สำหรับการปรับปรุงพื้นที่นั้น อยู่ลึกเข้าไปในโซนอุตสาหกรรม ห่างไกลจากคมนาคมสาธารณะ ไม่มีร้านค้า เบเกอรี่ หรือคาเฟ่ ซึ่งทำให้เข้าถึงยากและไร้ความสะดวกสบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้พิการทางร่างกาย โดยดัลโลยืนยันอย่างหนักเเน่นว่า พวกเขาและทุกคนที่ทำงานที่นี่จะไม่ยอมจนกว่าจะได้รับข้อเสนอที่ดีกว่านี้ และเขาเข้าใจดีว่าโอลิมปิกเกมจะนำมาซึ่งบรรยากาศที่ดี ตำแหน่งงานที่เพิ่มขึ้น และการปรับปรุงพื้นที่ให้ใหม่ขึ้น แต่เขาก็อยากมีส่วนร่วมกับมันอย่างเต็มใจกว่านี้เช่นกัน แต่สำหรับตอนนี้ยังยอมไม่ได้จริง ๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ดัลโลและเพื่อนพนักงานจะไม่ยอม แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก เพราะเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา สภาฝรั่งเศสอนุมัติกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนที่ดินในกรณีที่จำเป็นสำหรับโอลิมปิกปารีส 2024
ด้าน เบอร์นัวต์ ปินเก เจ้าหน้าที่ด้านการเจรจาความสัมพันธ์ของบริษัทซูลิเดโอ กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ที่จำเป็นสำหรับการสร้างหมู่บ้านนักกีฬา 64 เปอร์เซ็นต์ ได้ถูกจัดซื้อไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทจะพยายามหาข้อเสนอที่สันติต่อทุกฝ่ายที่สุด
ไม่ใช่แค่กลุ่มธุรกิจเท่านั้นที่ประสบปัญหา แต่สถาบันการเรียนการสอนด้านวิศวกรรมศาสตร์อย่าง ซุปเมก้า (Supmeca) ก็โดนลูกหลงไปด้วย เนื่องจากจะมีการตัดถนนผ่าสถาบันออกเป็น 2 ส่วน ทำให้หอพักสำหรับนักศึกษาต้องถูกรื้อถอน ซึ่ง เฟลิกซ์ หนึ่งในนักศึกษาให้ข้อมูลว่า เขาจ่ายเงิน 280 ยูโร หรือเกือบ 9,800 บาทต่อเดือน สำหรับหอพักในแคมปัส ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ถูกมาก และหากว่าหอพักถูกรื้อถอนไป เขาก็ไม่รู้เลยว่าจะไปหาราคานี้จากไหนในเมืองหลวงที่ค่าครองชีพแสนแพงอย่างกรุงปารีส
ด้าน อแลง ริแวร์ (Alain Rivere) ผู้อำนวยการของซุปเมก้า ให้ความเห็นว่า แม้ทางการจะประกาศว่า จะหาที่พักใหม่ให้นักศึกษาในราคาเดิม พร้อมกับจะสร้างหอพักใหม่และโรงอาหารให้คืนหลังจบโอลิมปิกเกม แต่ปัญหาที่แท้จริงของกรุงปารีส และประเทศฝรั่งเศส ก็คือความขาดแคลนวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ที่จะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการพัฒนาประเทศในระยะยาว ฉะนั้น พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องพัฒนาโรงเรียนและสถาบันการศึกษา และสิ่งนี้มันสำคัญกว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก
อีกปัญหาหนึ่งที่คนในชุมชนกังวลใจนอกจากที่ทำงาน และที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป นั่นคือ เรื่องของมลพิษและการจราจรที่ตามมาจากการก่อสร้าง เพราะในปัจจุบันพื้นที่ของปารีสในแถบนี้ก็ประสบกับปัญหาด้านการจราจรที่หนาแน่นและมลพิษทางอากศอย่างสาหัสอยู่แล้ว
“หมู่บ้านที่ดีไซน์โดยนักกีฬา และการบริการเปี่ยมประสิทธิภาพ” และ “สภาพแวดล้อมเงียบสงบ และผ่อนคลาย ทั้งก่อนและหลังการแข่งขัน” นี่คือคำโปรยที่เขียนอยู่บนหน้าเว็บไซต์ปารีส 2024 แต่ประชากรที่อาศัยอยู่ในบริเวณยังกังขาว่า พวกเขาจะได้ประโยชน์จากโอลิมปิกครั้งสำคัญนี้จริงหรือ และนั่นคือสิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญสำหรับประชาชนในตอนนี้ ความไม่มั่นใจถึงสวัสดิภาพชีวิตของพวกเขาคือปัญหาที่ทางการจะละเลยไม่ได้โดยเด็ดขาด
แม้สิ่งที่พวกเขาจะได้หลังจากนี้จะเป็นทั้งภูมิทัศน์อันสวยงามจากการฝังสายไฟลงดิน สถานีรถไฟแห่งใหม่ บ้านพักใหม่ 2,200 แห่ง และคำมั่นสัญญาว่า หลังจบเกมโอลิมปิก หมู่บ้านนักกีฬาจะเป็นย่านพักอาศัยที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงอาคารที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับนักกีฬา ผ่านมาและผ่านไป เหมือนตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นผ่านมา และเป็นบทเรียนในโอลิมปิกครั้งก่อน ๆ ก็ตาม แต่ความกังวลและข้อกังขาในใจของคนในพื้นที่ก็ยังคงไม่ลดน้อยลง กลับกัน มีแต่จะยิ่งเข้มข้นและอัดอั้นยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ