วันที่ 14 ธ.ค. ที่อาคารรัฐสภา พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า จุดยืนของพรรคไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ คือเชื่อว่า ยังสามารถเป็นกัญชาเสรีทางการแพทย์ และกัญชานันทนาการแบบควบคุมได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับสถานการณ์กัญชาเสรีสุดโต่งที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมา 1 ปี เป็นการปลดล็อกจากยาเสพติดโดยไม่มีกฎหมายควบคุม แม้พยายามอุดช่องโหว่ด้วยกฎกระทรวง ก็ยังไม่เพียงพอที่จะปกป้องเยาวชน
พิธา มองว่า การปลดล็อกกัญชาควรจะค่อยเป็นค่อยไปไม่สามารถทำอย่างฉุกละหุกได้ นครบอสตัน สหรัฐอเมริกา ใช้เวลา 8 ปี กว่าจะเป็นสันทนาการ ขณะที่มลรัฐโคโลราโดที่สมาชิกหลายท่านอ้างถึง ใช้เวลาถึง 37 ปี ย้ำว่า กัญชามีทั้งประโยชน์ และโทษ การทดลองจากกระทันหันจะทำให้มีโทษมากกว่าประโยชน์ ควรควบคุมได้ และค่อยๆ ปลดปล่อยอย่างระมัดระวัง มิเช่นนั้นอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการใช้กัญชา
พิธา ชี้ว่า การเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ต่างจากการเป็นสมุนไพรควบคุม สภาพบังคับอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข แต่เมื่อเป็นยาเสพติด ตำรวจและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะมาเกี่ยวข้อง แต่ถึงกลับไปเป็นยาเสพติด ก็สามารถพัฒนาต่อยอดทางการแพทย์ได้ ควบคุมทีละนิด และยังเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องปลดล็อกจากยาเสพติด ก็สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชาให้เป็นไปตามความคาดหวังได้
"เรื่องกัญชาไม่ใช่เรื่องที่จะใช้อารมณ์ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของพรรคใดพรรคหนึ่ง และไม่ใช่เรื่องของนายทุน แต่เป็นเรื่องของสังคมโดยรวม ที่ต้องหาจุดสมดุลให้ได้"
ทั้งนี้ พิธา ได้ระบุว่า สำหรัลการตัดสินใจลงมติวาระ 3 ของพรรคก้าวไกลนั้น ต้องดูในรายละเอียดแต่ละมาตราว่าเป็นการสร้างจุดสมดุลจริงหรือไม่
ขณะที่ เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ เน้นย้ำว่า หลักใหญ่ใจความของ พ.ร.บ.คือการควบคุม ไม่ใช่ปล่อยเสรี และต้องไม่ให้กลุ่มทุนหรือกลุ่มการเมืองผูกขาด ให้ประชาชนใช้ประโยชน์เต็มที่
เท่าพิภพ กล่าวถึงความพยายามในชั้นกรรมาธิการ ในการเสนอข้อคิดเห็นจากเครือข่ายประชาชนในหลายจังหวัด จัดทำเป็น ร่าง พ.ร.บ.กัญชาก้าวหน้า ซึ่งมองว่าอุดช่องโหว่ได้หลายประเด็น ซึ่งตนกล้าพูดว่า พ.ร.บ.ที่จะเข้าสู่ที่ประชุมในวันนี้ คือประเด็นที่ตนได้เสนอเข้าที่ประชุม รวมถึงได้แปรญัตติไว้แล้ว ขอให้วางใจได้ว่าพรรคก้าวไกลมุ่งตอบ 2 จุดมุ่งหมายนี้แน่นอน
"เชื่อว่าการอภิปรายของพรรคก้าวไกลจะทำให้ทุกคนเข้าใจอย่างกระจ่าง ผมน่าจะเป็นคนเดียวในกรรมาธิการฯ ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของไร่หรือธุรกิจกัญชาเลย ความเห็นผมอยู่ตรงกลางที่สุดแล้ว" เท่าพิภพ กล่าว