ที่อาคารรัฐสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงข่าวหลังเมื่อวาน (8 มิ.ย.) ที่ประชุมสภามีมติรับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพาสามิต ฉบับที่ ... พ.ศ.... ในวาระแรก
โดย เท่าพิภพ ได้กล่าวขอบคุณครอบครัว ภรรยา ที่ให้ความเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนทำ สมาชิกทุกคนในพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล รวมถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าหากไม่มีฝ่ายค้านที่ช่วยเราเราก็ไม่ได้คะแนน
เท่าพิภพ ยังขอขอบคุณหลายคนที่อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลที่มาช่วยโหวตสนับสนุน หรืองดออกเสียงช่วย หรือแม้ฝ่ายที่โหวตไม่เห็นด้วย ก็ยังอยู่จนถึง 20:00 น. เพื่อเป็นองค์ประชุมให้ ตนถือว่าเป็นความสวยงามของประชาธิปไตยที่เห็นได้ยาก อีกทั้งยังเป็นร่างกฏหมายของฝ่ายค้านที่ผ่าน ตั้งแต่ตนจำความได้ ถือเป็นความมหัศจรรย์ที่จุดไฟความหวังในใจของหลายคน
นอกจากนี้ ยังขอขอบคุณเครือข่ายภาคประชาชน พี่น้องในวงการสุราพื้นบ้านทุกท่านที่ต่อสู้มาก่อนตนด้วยซ้ำ จากที่ได้ฟังความคิดเห็นของทุกท่าน ก่อนจะได้ผลักดันมาจนผ่านวาระแรก
ต่อไปในชั้นกรรมาธิการ ตนก็ยืนยันจะสู้ในหลักการ และเมื่อได้ฟังคำอภิปราย รวมถึงข้อกังวลของทางราชการ ฝ่ายรัฐบาล และสมาชิกในสภา ยืนยันว่าจะต้องมีการหารือกันต่อไปเพื่อหาทางออก ให้พบจุดที่ลงตัวเพื่อให้มั่นใจได้ว่า จะปฏิเสธการลงมติไม่ผ่านในวัดทั้งสองและสามไม่ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วสภาก็จะกลายเป็นปาหี่ มวยต้มล้มคนดู เพราะสุดท้ายประโยชน์ของประชาชนต้องมาก่อน จึงอยากให้ทุกคนในกรรมาธิการทำงานอย่างเต็มที่คุยกันด้วยเหตุผล
"ผมตอบได้ไม่เต็มปากว่าดีใจ แต่ความรู้สึกเด่นที่สุดซึ่งปรากฏขึ้นมา คือรู้สึกขอบคุณมากกว่าดีใจ ผมไม่ใช่ Zero to Hero อย่างที่ใครหลายคนบอก ผมก็ขอบคุณที่ชื่นชม แต่การเมืองทำคนเดียวไม่ได้ ทางพี่น้องสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจในประเด็นของผมตั้งแต่ช่วงแรกๆ ตั้งแต่ผมโดนจับ ถ้าไม่มีวันนั้นก็คงไม่มีวันนี้ ... สังคมเข้าใจแล้วว่าคนธรรมดาก็ทำเบียร์ได้ จนมาถึงการแก้ไขกฎหมายตอนนี้ อยากฝากถึง เจ้าหน้าที่สรรพสมิต และ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ให้แก้กฏกระทรวงรอได้เลย" เท่าพิภพ กล่าว
ด้าน พิธา ระบุว่า ครั้งนี้เป็นการแถลงข่าวเพื่อร่วมฉลองกับพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับการผ่านร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า พร้อมยก 7 เหตุผล เพื่อต่อยอดและฉายภาพให้สังคมไทยได้เห็นว่า เมื่อกฎหมายนี้ผ่านไปสู่การประกาศใช้จริง อานิสงส์ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยต่อไปจะเป็นอย่างไร
พิธา ยังขอขอบคุณเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านแห่งประเทศไทย (ครท.) ที่ต่อสู้ร่วมกันมากว่า 10 ปี จนได้มติคณะรัฐมนตรีมาเมื่อปี 2544 ถ้าไม่มีพวกเขา คงไม่มีร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าฯ
โดย 7 เหตุผล ที่ต่อยอดได้ หากร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านสู่การประกาศใช้ ประกอบด้วย
1) จากของถูกจะกลายเป็นของแพง เพิ่มโอกาสในการแปรรูปสินค้าทางการเกษตร
2) ธุรกิจและผู้ประกอบการรายใหม่จะเกิดขึ้นมากมาย คืนเม็ดเงินสู่เศรษฐกิจชุมชนได้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท
3) กระตุ้นการท่องเที่ยวท้องถิ่น จากการตามรอยสุราพื้นบ้าน
4) ต่อยอด วิจัย พัฒนาภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สูญหายไป
5) ลดการนำเข้าสุราจากต่างประเทศ ขจัดการผูกขาด เพิ่มการส่งออก ได้ดุลการค้ากลับมา
6) แก้ปัญหาราคาพืชผล เพิ่มอำนาจต่อรองให้เกษตรกร
7) อุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสุราพื้นบ้านจะได้รับผลประโยชน์ด้วย
โดยในสัปดาห์หน้า ตนขอให้ติดตามการประชุมพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ซึ่งจะเข้าสู่ที่ประชุมสภา พร้อมกับ ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ด้วย
สำหรับความเป็นห่วงว่าร่างกฏหมายจะตกในวาระที่ 2 และ 3 หรือไม่นั้น พิธา กล่าวว่า ตนยังมีความหวัง ขึ้นอยู่กับในช่วงเวลาที่เหลืออยู่จะทำอะไรได้บ้าง ทางพรรคก้าวไกลเองก็จะเดินสายมากขึ้น พร้อมอธิบายทั้ง 7 เหตุผลข้างต้น ให้เพื่อนสมาชิกฯ และประชาชนเข้าใจ
"ถ้า ส.ส. 500 คน ยึดโยงกับประชาชน ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ถ้าฟังโทรศัพท์เพียงไม่กี่สายที่โทรเข้ามาว่าควรจะโหวตอะไรหรือไม่โหวตอะไร ก็น่าเป็นห่วง ซึ่งก็ไม่ใช่แค่เรื่อง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า แต่เป็นทุกเรื่อง" พิธา กล่าว
นอกจากนี้ พิธา ยังแสดงความเห็นถึงกรณีที่วุฒิสภาจะเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 153 เพื่อเสนอแนะต่อ ครม. ในเร็ววันนี้ โดยตนยังเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานของรัฐบาล แต่หวังว่าจะไม่ถูกใช้เป็นเวทีให้รัฐมนตรีแสดงผลงานฟอกขาวตัวเองก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขอให้ ส.ว.ใช้อำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบให้เต็มที่