ที่ศาลปกครอง ถนนเเจ้งวัฒนะ ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมพีรพล กนกวลัย ผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท พรรคก้าวไกล เข้าร่วมฟังการไต่สวนของศาลปกครองนัดแรก กรณีที่ กกต. ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ไม่ประชาสัมพันธ์ชื่อ-เบอร์ พีรพล หน้าหน่วยเลือกตั้งภายหลังศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาแล้วตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม โดยศาลปกครองใช้เวลาไต่สวนประมาณ 2 ชั่วโมง
ชัยธวัช ให้สัมภาษณ์ภายหลังฟังการไต่สวนของศาลปกครอง ว่าการไต่สวนวันนี้ตัวแทนของ กกต. และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร มีการอ้างว่าเหตุที่ไม่ดำเนินการใดๆ เพราะไม่มีกฎหมาย ระเบียบ แบบฟอร์ม ในการจะปฏิบัติตามคำสั่งทุเลาของศาลปกครอง และอ้างว่าทาง กกต.อุทธรณ์คำสั่งทุเลาดังกล่าวไปแล้ว จึงยังไม่มีการดำเนินการใดๆ แต่ในวันนี้ศาลปกครองเห็นว่าการอ้างว่าอยู่ระหว่างอุทธรณ์นั้นไม่เป็นเหตุทำให้คำสั่งทุเลาสิ้นผลลง
ดังนั้นศาลปกครองจึงมีคำสั่งชัดเจนว่าให้ ผอ.กกต.กทม. ดำเนินการตามคำสั่งทุเลาโดยทันที ด้วยการให้ออกประกาศรับสมัคร พีรพล ให้เป็นผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท และให้ติดประกาศไว้ที่หน้าหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยในเขตพญาไท ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 12 พ.ค.ซึ่งเราก็ต้องรอดูผลการดำเนินการของ กกต.ว่าจะดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายในวันดังกล่าวได้หรือไม่เพราะใกล้วันเลือกตั้งเต็มทีแล้วก็จะส่งผลเสียหายต่อผู้สมัครของพรรคก้าวไกล
"เรื่องนี้หาก ผอ.กกต.กทม. ไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาล ไม่มีการติดประกาศ ไม่มีการประกาศรับนายพีรพล เป็นผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท รวมถึงไม่มีการติดประกาศหน้าหน่วยเลือกตั้งภายในวันที่ 12 พ.ค. ทางพรรคก้าวไกลจะพิจารณาการดำเนินคดีตามมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อไปเพราะคำสั่งศาลปกครองชัดเจนมากแล้วในทางปฏิบัติว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร" ชัยธวัช กล่าว
ชัยธวัช กล่าวอีกว่าส่วนคดีที่ได้ฟ้องต่อศาลปกครองทางศาลได้บอกชัดเจนว่าศาลสามารถที่จะวินิจฉัยพิพากษาได้เสร็จสิ้นก่อนวันเลือกตั้งในวันที่ 22 พฤษภาคม หาก กกต.ไม่ขอขยายเวลา กกต.อ้างว่าจำเป็นต้องขอขยายเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานจำนวนมากในการพิจารณาคดี ซึ่งศาลขอความร่วมมือไม่อยากให้ขยายเวลาออกไปอีก เพราะเห็นว่าพยานหลักฐานควรจะมีอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่พิจารณาไม่รับสมัครนายพีรพล ดังนั้นไม่ควรจะต้องใช้เวลามากมายเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ให้จบก่อนการเลือกตั้ง อยากเห็นการเลือกตั้งที่เป็นกลางสุจริต ไม่มีพฤติการณ์ใดๆ ที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะในการเลือกตั้ง ส.ก.เขตพญาไท เป็นที่ทราบกันดีว่า พีรพล เป็นผู้สมัครที่ได้รับการยอมรับจากคนในเขตพญาไทอย่างมาก จากการทำงานในพื้นที่ 2 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นหากไม่มีการดำเนินการตามคำสั่งของศาลโดยเร็วก็จะทำให้ ผอ.กกต.กทม.ถูกมองได้ว่าไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง
ด้าน พีรพล กล่าวว่าศาลชี้ว่า กกต.จะต้องดำเนินการเสมือนหนึ่งเป็นผู้สมัครเลย เพราะศาลทุเลาไปแล้ว ก็ดำเนินการโดยวิธีปกติ ไม่จำเป็นต้องมีแบบฟอร์มหรือระเบียบกฎหมายใดๆ แล้วสิ่งที่ ผอ.กกต.กทม.ก็ต้องปฏิบัติตาม เพราะที่ผ่านมาตนได้รับความเสียหายแล้ว หาเสียงไม่ได้ แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย เพราะเขาอ้างว่าไม่ได้เป็นผู้สมัคร และตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียง 10 กว่าวันเท่านั้น หาก กกต.ยังนิ่งเฉยอยู่ก็จะต้องดำเนินคดีกับ กกต.อีกหลายคดี ในฐานะที่เป็นผู้สมัครแล้วได้รับความเสียหาย ดังนั้นขอให้ กกต.อย่านิ่งเฉย และขอให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง และขอให้ประชาชนในเขตพญาไท รับทราบว่าตนถือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้วตามคำสั่งของศาลปกครอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อระยะเวลาทอดเลยมาถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อว่าจะต้องมีขบวนการใดขบวนการหนึ่งที่จ้องที่จะไม่ให้ตนได้เป็นผู้สมัคร จากการที่อยู่พรรคก้าวไกล และคนที่อยู่พรรคก้าวไกลจะโดนลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ ดังนั้นขออย่าใช้กระบวนการที่ไม่ถูกต้องมาดำเนินการกับคนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองต่าง และต้องถูกกำจัดไป หากดำเนินการเช่นนี้เชื่อว่าหากคนที่ทำเรื่องเหล่านี้หมดอำนาจจะมีคดีติดตามตัวไปอย่างแน่นอน