พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อม กรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส. เลือกตั้งซ่อมเขตจตุจักร-หลักสี่ เบอร์ 6 จากพรรคก้าวไกล เดินทางรณรงค์หาเสียงพบปะประชาชนบริเวณตลาดท่าทราย แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ โดยเน้นย้ำเชิญชวนออกไปเลือกตั้ง เพื่อส่งเสียงว่าเราไม่เอารัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่เอาระบอบประยุทธ์ ในวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม นี้
กรุณพล กล่าวตอนหนึ่งว่า ในที่สุดความฝันของเราก็เป็นจริง ทางกองทัพอนุญาตให้เข้าไปหาเสียงในค่ายทหารได้ ซึ่งตนจะได้เข้าไปหาเสียงที่ค่ายกรมยุทธโยธาและมณฑลทหารบกที่ 11 ทั้งนี้ การที่เราพรรคก้าวไกลต้องการเข้าไปปราศรัยและหาเสียงในค่ายทหารนั้น เพราะต้องการให้ทหารได้เข้าใจถึงแนวทางการปฎิรูปกองทัพของพรรค เราพบว่ามีงบประมาณของกองทัพที่ถูกใช้ไปอย่างไม่เกิดประโยชน์มากเกินไป พรรคก้าวไกลต้องการผลักดันงบประมาณเหล่านี้ มาให้เป็นงบประมาณของประชาชน เป็นสวัสดิการของพี่น้องประชาชนรวมถึงชีวิตของครอบครัวทหารชั้นผู้น้อยให้อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี
และที่สำคัญพรรคก้าวไกลต้องการที่จะปรับขนาดกองทัพให้เล็กลงแต่คงประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และสุดท้ายตนต้องการผลักดันยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เพราะเชื่อว่า คนที่เป็นทหารนั้นสามารถสมัครได้ โดยที่มีสวัสดิการที่ดี มีการศึกษาและมีความมั่นคงในชีวิตมากกว่าการเกณฑ์ทหาร เพราะทหารเกณฑ์หลายคนเป็นหัวหน้าครอบครัว มีภาระหน้าที่ หลายคนมีงานประจำ กลับกลายมาเป็นต้องละทิ้งแล้วมาเป็นทหารถึง 2 ปี
"ผมเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นกองทัพบก กองทัพเรือ หรือกองทัพอากาศ นายทหารและพลทหารต่างมีความรักในประชาธิปไตยไม่แตกต่างกัน ผมอยากให้ทหารได้รับรู้ว่าประชาธิปไตยที่แท้จริง ศักดิ์ศรีของคนที่แท้จริงเป็นอย่างไร คนต้องเท่ากัน กองทัพต้องเป็นกองทัพที่ความภูมิใจจากประชาชนทั้งประเทศ ทหารสามารถใส่เครื่องแบบได้อย่างไม่ต้องเขินอายและมีความภูมิใจในเครื่องแบบ ที่ไม่ใช่แบบทุกวันนี้ ซึ่งสายตาจากประชาชนที่มองคนในเครื่องแบบเปลี่ยนไป ถึงเวลาที่ชายชาติทหาร บุรุษและสตรีที่อยู่ในเครื่องแบบ จำเป็นจะต้องได้รับความเชิดชูได้รับเกียรติยศกลับคืนมา" กรุณพล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการปราศรัยหาเสียงในค่ายกรมยุทธโยธาและ มทบ.11 ของพรรคก้าวไกลจะมีขึ้นในวันที่ 27 มกราคม โดยจะมี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแกนนำพรรค มาร่วมปราศรัยหาเสียงให้กับกรุณพลด้วย