วันที่ 10 ก.พ. 2566 ที่พรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส. พะเยา อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะกรรมการจัดทำนโยบายของพรรค พปชร. ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.เป็นประธาน ว่า วันนี้เข้ามาพรรค พปชร.ครั้งแรกหลังจากถูกขับออกไป และไม่ได้เข้ามาในรอบ 1 ปี 

ยอมรับว่าคิดถึงบ้านเก่า และผูกพัน เมื่อกลับมาครั้งนี้ยังอบอุ่นเหมือนเดิม โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาถือว่าเป็นคนของพรรค พปชร. ที่ผ่านมาไม่ใช่คนหาเรื่องคน และนโยบายของ พล.อ.ประวิตร คือก้าวข้ามความขัดแย้ง ดังนั้นอะไรที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านให้ผ่านไปกับปีเก่า เริ่มต้นใหม่ทุกเรื่องทุกประเด็น 

ผู้สื่อข่าวถามว่าการกลับมาครั้งนี้ได้รับมอบหมายให้ดูแลในเรื่องใด ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเป็น ส.ส.เขต ที่คุ้นเคยภาคหรือ จะช่วยดูแลในภาคเหนือ 

เมื่อถามว่าหวังที่นั่งส.ส.ในภาคเหนือกี่เขต ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตอนนี้เรายังไม่เห็นหน้าคู่แข่งว่าเป็นใครบ้าง รอให้ชัดเจนก่อนถึงจะกล้าพูดว่าจะได้สักกี่เขต แต่สำหรับ จ.พะเยา หวังว่าได้หมดอยู่แล้ว ส่วนตัวผู้สมัครใน 8 จังหวัดภาคเหนือ วางตัวไว้หมดแล้วไม่เปลี่ยนแปลง 

เมื่อถามว่าการแข่งขันการเมืองในปี2566 กับปี 2562 แตกต่างกันอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สภานการณ์การเมืองปี 2562 กับ 2566 ต่างกันมาก เพราะคู่ต่อสู้เตรียมตัวมาดี ทุกพรรคเตรียมตัวมา4 ปีแล้ว โดยพื้นที่ที่ตนดูแลไม่หนักใจ และคิดว่าดูแลประชาชนได้ เมื่อถามย้ำว่าไม่กลัวกระแสแลนส์สไลด์ในพื้นที่ภาคเหนือของบางพรรคหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ห่วง มั่นใจในการทำพื้นที่ แม้กระแสการเมืองครั้งนี้ต่างกับปี 2562 อย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การแก้ปัญหาน้ำและที่ดิน ที่เป็นผลงานโดดเด่นของพรรค ซึ่งตอนเป็นรัฐมนตรี ตนทำเรื่องนี้มาตลอด เพราะเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะการผลักดันสปก.4-01 ก็จะต้องทำต่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจว่ารอบนี้พรรค พปชร.จะสร้างนายกฯได้อีกครั้ง หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ทุกพรรคหวังว่าพรรคตัวเองจะสามารถทำได้ เมื่อถามย้ำว่ามั่นใจจะผลักดันให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกคนที่ 30 ได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จะพยายามผลักดันให้มาเป็นผู้นำของประเทศ ในสถานการณ์บ้านเมืองอย่างนี้ พล.อ.ประวิตร เหมาะสมที่สุด 

เมื่อถามว่าการกลับมาพรรคพปชร.จะมีดีลกับบางพรรคการเมืองหรือไม่ กล่าวว่า เร็วไปที่จะพูดเรื่องนี้ ตอนนี้ขอทำให้สมาชิกกลับมาเป็นส.ส.ให้มากที่สุดก่อน 

เมื่อถามว่าหลังเลือกตั้ง ถ้าพรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิม ชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมเป็นนายกรัฐมนตรี จะไม่ยกมือสนับสนุน ใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่สามารถไปกำหนดหรือให้คำตอบได้ว่าจะสนับสนุนหรือไม่ ต้องฟังคณะกรรมการ และนโยบายของหัวหน้าพรรคก่อน เมื่อถามย้ำว่า จะลืมอดีตและทำงานร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ ได้หรือไม่

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่คิดจะทะเลาะกับใคร ต้องการทำงานการเมืองอย้างสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ประเทศและประชาชน ผู้สื่อข่าวถามว่าการได้มีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตของพรรคพปชร.ถือเป็นบวก หรือ ลบ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่า ไปวิจารณ์ เอาเป็นว่าเราสนับสนุน พล.อ.ประวิตร

เมื่อถามว่าการเข้าพรรคครั้งนี้จะไม่เอาตำแหน่งอะไรในพรรค แต่เพื่อช่วยงานพล.อ.ประวิตร เท่านั้นใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรามี บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ เป็นกรรมการบริหารพรรคอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าวันนี้พรรค พปชร.ประกาศพร้อมจับมือทุกขั้วก้าวข้ามความขัดแย้ง แสดงว่าในพื้นที่ภาคเหนือ สามารถทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย หรือร่วมงานกับเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่มีบารมีในพื้นที่ภาคเหนือได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ย้อนถามว่า "หมายความว่าอย่างไร" ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า วันนี้เหมือนพรรค พปชร.ไร้ขั้ว และพร้อมทำงานกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่หัวหน้าพรรค เราเพิ่งเข้ามา อย่าไปพูดอะไรมาก

ย้ำ 'พปชร.' เสนอขึ้นเงินเดือน นายกอบต. นานแล้ว

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในส่วนการขึ้นเงินเดือนนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ขณะนี้ ทางพรรคพลังประชารัฐมีการพูดคุยมานานแล้ว ตั้งแต่ช่วงแรกได้รับเลือกตั้งเป็นรัฐบาล ว่าค่าตอบแทนของนายกอบต. เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ควรจะปรับให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพราะหากเดือดร้อนเรื่องค่าครองชีพก็ไม่สามารถทำงานให้กับประชาชนได้ พรรคพลังประชารัฐสนับสนุนไม่ใช่คัดค้าน 

เมื่อถามว่า มีการมองว่าการเสนอเรื่องดังกล่าวในช่วงนี้ เป็นการหวังผลช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ถ้าจะพูดตอนนี้ก็ประมาณนั้น แต่ทางพรรคพลังประชารัฐคุยมานานแล้ว ช่วงที่ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตนเดินทางไปตรวจเยี่ยมในแต่ละพื้นที่ ก็มีการพูดคุยตลอด ทั้งทางนายกสมาคมอบต. นายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 

เมื่อถามว่า มีแนวนโยบายที่จะสนับสนุนให้มีการเพิ่มเงินเดือนอยู่แล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เป็นของเก่าที่เราเคยคุยไว้อยู่แล้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย ก็เคยปรารถและให้เราทำการบ้านในเรื่องดังกล่าว 

เมื่อถามถึงกรณีที่สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ควรมีการขึ้นเงินเดือนในส่วนของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านด้วย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ทั้งในท้องถิ่นและในท้องที่ 

เมื่อถามต่อว่า ไม่ได้เป็นการฉวยโอกาสช่วงหาเสียงใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องดังกล่าวเป็นการบ้านที่เราทำมานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่สำเร็จ เราผลักดันเรื่องนี้มานานแล้ว 

เมื่อถามถึงกรณีที่พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ระบุว่า การขึ้นเงินเดือนนายกอบต. เป็นการติดตามเร่งรัด ไม่ใช่นโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เนื่องจากเราผลักดันมานานแล้ว ดังนั้นหากพรรคใดพรรคหนึ่งหยิบขึ้นมาเป็นประเด็น ตนก็เห็นด้วย จะได้รับปากแล้วทำ

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ว่ามีความสำคัญ สิ่งที่ตนพยายามทำให้กับประชาชน ใน 8 จังหวัดภาคเหนือ คือการแก้ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรประเภทลำไย ซึ่งตนได้ผลักดัน ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ลำไย ตอนนี้เป็นรูปเป็นร่างแล้ว ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายของพรรคพลังประชารัฐทุกคนก็รับทราบ ว่าเราจะผลักดันพ.ร.บ.ลำไยให้สำเร็จ