ที่อาคารรัฐสภา นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาฯ (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณี ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ชนะการเลือกตั้งอย่างแลนด์สไลด์ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐมี ส.ก. ได้รับเลือกตั้งมาเพียง 2 คน เท่านั้น สะท้อนถึงวิกฤตศรัทธาหรือไม่

นิโรธ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับวิกฤตศรัทธา เชื่อว่าพี่น้องประชาชนยังคงเป็นศรัทธากับพรรคพลังประชารัฐอยู่ แต่สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นั้น ด้วยความที่พรรคส่งเพียงผู้สมัคร ส.ก. ซึ่งยังถือเป็นเรื่องใหม่ที่พรรคยังไม่มีประสบการณ์ ขณะที่ ชัชชาติ นั้น ประชาชนตัดสินใจเลือกท่าน ตั้งแต่ท่านลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพื่อมาลงสมัครเป็นอิสระแล้ว

นิโรธ เผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าพรรคพลังประชารัฐต้องกลับมาทบทวนการทำงานของพรรค และได้มีดำริว่า ในเมื่อสื่อมวลชนได้วิพากษ์วิจารณ์พรรคพลังประชารัฐอยู่ด้านนอก จึงอยากจะเชิญสื่อมวลชนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ในพรรคเสียเลย เพื่อให้เห็นว่าภายในพรรคมีข้อบกพร่องอะไรบ้าง

โดยจะมีการเชิญสมาชิก ส.ส. ผู้บริหาร ตลอดจนรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค มารับฟังว่าสื่อมวลชนจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรบ้าง โดยจะเปิดให้เต็มที่อย่างเสรี และจะยินดีน้อมรับฟังเพื่อไปปรับปรุงทบทวนดูว่า พรรคพลังประชารัฐจะดำเนินการไปข้างหน้าต่ออย่างไร และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเชิญสื่อมวลชนท่านใดที่มีความอาวุโส อยู่ในวงการมา ว่ามีความเห็นอย่างไรต่อการทำงานของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการประสานงานติดต่อ

นิโรธ ยังกล่าวถึงกรณีที่ได้รับมอบหมายทำหน้าที่โฆษกประจำตัว พล.อ.ประวิตร ว่าหัวหน้าพรรคฯ ได้มอบหมายตนมาช่วยชี้แจงในบางประเด็น เพื่อให้สื่อมวลชน และประชาชนได้ทราบรายละเอียดที่ตกหล่นจากการสัมภาษณ์ โดยหลังจากนี้จะได้เห็นการประชาสัมพันธ์ของพรรคที่เป็นเชิงรุกมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐ และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ทำงานอย่างเดียว ไม่ค่อยได้นำเสนอผลงานสู่ประชาชน

สำหรับกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้เปิดเผยยุทธการ 'เด็ดหัว สอยนั่งร้าน' ซึ่งมีความแน่ชัดว่าหัวหน้าพรรคฯ ก็เป็นเป้าหมายนั้น นิโรธ ตอบกลั้วหัวเราะว่า "เอาอีกแล้ว ฝนยังไม่ตก จะรีบกางร่มไปไหน"

นิโรธ กล่าวว่า กลุ่ม 3 ป. ต่างทราบดีว่าท่านทำงานอะไรบ้าง สิ่งที่ท่านระวังมากที่สุดคือเรื่องการทุจริต ดังที่ท่านได้กล่าวว่าต่อไปหากใครท้วงตึงมาจะรับฟังมากขึ้น แล้วจะไปปฏิบัติตรวจสอบ แต่ฝ่ายค้านกลับบิดเบือนไปอีกแบบ มักจะด้อยค่าผู้อื่น แต่ไม่มองไปยังฝ่ายตัวเอง ตอนสมัยพรรคท่านเป็นรัฐบาล ทุจริตเท่าไหร่ ติดคุกเท่าไหร่

เมื่อถามว่ามั่นใจว่าจะสามารถคุมเสียงเพื่อรักษาเก้าอี้ของพรรคร่วมรัฐบาลได้หรือไม่ เพราะฝ่ายค้านมีความมั่นใจว่ามีส.ส.ฝ่ายรัฐบาล จะล้มเก้าอี้รัฐมนตรีบางตำแหน่ง นิโรธ กล่าวว่า เมื่อดูจากการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณจ่ายประจำปี 2566 ก็ทราบว่าเป็นอย่างไร 

นิโรธ ย้ำว่า รัฐบาลไม่ต้องประสานเสียง โชว์ฟอร์มอะไร ไม่ต้องตีปี๊บ พรรคร่วมรัฐบาลยังมั่นคงแข็งแรงอยู่ ยังประสานมือกันเหนียวแน่น เพราะฉะนั้นเสียงของรัฐบาลไม่น่ากังวลอะไรทั้งสิ้น ยังเหมือนเดิม อาจจะมีเซอร์ไพรส์มากกว่า ก็ต้องคอยดู แต่พรรคฝ่ายค้านพยายามจะด้อยค่าคนอื่น เป็นชุดความคิดที่ไม่ถูกต้อง ควรจะให้เกียรติผู้นำของแต่ละพรรค เรายังไม่เคยไปกล่าวว่าหัวหน้าพรรคเขาเลย เขาก็ควรให้เกียรติหัวหน้าพรรคเรา

"ชุดความคิดเหล่านี้ไม่ดี บางคนก็อ้างตัวเป็นประชาธิปไตย แต่จริงๆ แล้ว แม้แต่ความคิดยังครอบงำ ยังเผด็จการความคิดเลย แล้วจะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไรคนเหล่านี้ เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น กลายเป็นน้ำเน่าไปหมด" นิโรธ ทิ้งท้าย