หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งการชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรองแม่ทัพภาค 1 ลงพื้นที่บึงพระราม 9 สำรวจปัญหาขยะที่ลอยมาในคลองลาดพร้าว
โดย ชัชชาติ ได้กำหนด 4 แนวทางรับมือน้ำท่วมคือ
1.ดูแลขยะที่ติดกับสถานีสูบน้ำหลัก เช่น อุโมงค์พระราม 9 และอุโมงค์พระขโนง
2.ดูแลเรื่องขยะตามจุดต่างๆ ที่อุดตามช่องระบายน้ำ
3.ขุดลอกคลอง ได้แบ่งจุดกับทหาร ทำการขุดคลองแถวคลองบางบัว
และ 4. ประสานกับหน่วยทหาร จัดหน่วยบริการรถรับส่ง ในจุดน้ำท่วมขังที่เข้าออกลำบาก เพื่อช่วยคนตกค้าง
ชัชชาติ ได้ระบุว่า สาเหตุที่น้ำท่วมในเขตลาดพร้าวและเขตติดต่อ มาจากคลองลาดพร้าวที่ตื้นเขิน ไม่ได้ขุดลอกมานาน ถ้าขุดลอกดี จะช่วยระบายน้ำได้และยังเป็นพื้นท้แก้มลิง ภาพรวม กทม.ยังมี คลองประเวศ คลองแสนแสบ คลองพระยาสุเรนทร์
ส่วนอุโมงค์ระบายน้ำ ปัจจุบัน กทม.มี 4 จุดระบายน้ำได้ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ถือว่าไม่ได้มาก ขณะที่กำลังการดรระบายน้ำของกทม.ต้องใช้ 2500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ศักยภาพของอุโมงค์ช่วย ได้ 10% จำเป็นต้องเร่งการขุดลอกคลอง เพราะคลองเป็นเส้นเลือดฝอยที่รับายไปยังเส้นเลือดใหญ่ โดยยอมรับที่เกิดปัญหาน้ำท่วมขังขากฝนตกเพราะขยะที่ไปอุดตันท่อระบายน้ำ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องเร่งปีะสานหาคนไปจัดการขยะ
ส่วนที่มีข้อแนะนำว่า ผู้ว่าฯกทม ควรตั้งวอร์รูม ชัชชาติระบุว่า ปกติมีวอร์รูมประจำที่ศาลาว่าการดินแดง ซึ่งจะเห็นจุดน้ำท่วมถนนสายหลักเท่านั้น ไม่เห็นพื้นที่ย่อยๆท่ประสบปัญหาเช่นกัน ต้องอาศัยลงพื้นที่ ซึ่งจพทำให้เร่เห็นปัญหา เช่นการรับส่งคน เวลาน้ำท่วม รถประจำทางรอนาน คนตกค้าง ซึ่งการลงพื่นที่ทำให้เห็นปัญหา และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย ตอนนี้ให้เขตทำแผนที่จุดย่อยที่น้ำท่วม เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับปัญหา
ส่วนที่ใช้รถจักรยานยนต์ลงพื้นที่ เพราะต้องการเข้าพื้นที่ให้เร็วเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ชัชชาติ ระบุพร้อมน้อมรับคำติชมทุกรายการ