ที่ทำเนียบรัฐบาล ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการจัดระเบียบสายสื่อสารของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติจำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที บริเวณปากซอยถนน สุขุมวิท 36 ว่า การจัดระเบียบสายสื่อสารนั้น เป็นนโยบายที่คณะรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีผลักดันมาตลอด และเนื่องจากมีผู้ให้บริการสายสื่อสาร หรือสายอินเทอร์เน็ตหลายรายทำให้สายเหล่านี้มีเยอะ จึงจำเป็นต้องจัดระเบียบ 

ชัยวุฒิ เผยว่า ค่าใช่จ่ายส่วนหนึ่งในการจัดระเบียบสายสื่อสารมาจาก สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) ซึ่งในปีนี้จะมีประมาณที่เพียงพอสำหรับการดำเนินงาน 39 จุด รวมเส้นทางการดำเนินงานกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งการลงพื้นที่ของตนเป็นการเร่งรัดดำเนินการ และประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทราบว่า ทางคณะรัฐมนตรีมีการดำเนินการอยู่หากประชาชนเห็นจุดใดที่มีปัญหาในเรื่องสายสื่อสารก็สามารถแจ้งได้มาที่กระทรวงดีอีเอส หรือ กทม. เพราะมีการประสานงานกันอยู่ตลอด

ชัยวุฒิ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามถ้าหากจะดำเนินการทั้งหมดคงต้องใช้เวลาหลายปี จึงต้องค่อยๆ ทำเพราะเป็นเรื่องงบประมาณ และกำลังคน แต่ก็จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด นอกจากนี้สิ่งที่ตนกำลังทำอยู่คือ การนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินในถนนสายหลัก เช่น ถ.สุขุมวิท หรือ ในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีการดำเนินงานไปแล้ว แต่ก็จะทำไปเรื่อยๆ ซึ่งมีการประเมินถ้าจะทำทั้งกรุงเทพฯ คงต้องใช้งบประมาณ ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงมาก 

ชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ถ้าลงทุน และเก็บค่าใช้จ่ายจากเอกชน เจ้าของสายสื่อสารจะเป็นภาระที่จ่ายไม่ไหว ทำให้โครงการดำเนินการต้องเป็นไปเท่าที่ควร ซึ่งตนจะลงไปแก้ปัญหาตรงนี้ อาจจะให้กสทช.เข้ามาช่วย และที่ผ่านมา กสทช. ได้ให้งบประมาณสำหรับการจัดระเบียบสายสื่อสารมาบางส่วน และต้องทำงานร่วมกับกทม. เพราะต้องใช้พื้นที่ทางเท้าของกทม. ด้วย โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด