วันที่ 22 ม.ค. อนุชา​ นาคาศัย​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ ให้สัมภาษณ์ขณะตรวจเยี่ยมท่าเทียบเรือประมงระนอง องค์การสะพานปลา ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง ​ว่า จะมีการปรับปรุงเพื่อให้เกิดประโยชน์​สูงสุด​กับชาวประมง​ รวมไปถึงชาวประมงในประเทศเพื่อนบ้านที่มาทำการค้าขายเนื่องจากมีชายแดนติดกัน​ และในประเทศเพื่อนบ้านเองมีการนำสัตว์น้ำมาขึ้นยังท่าแห่งนี้กว่า​ 80% ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจในประเทศไทยได้รับประโยชน์​ในการเพิ่มเม็ดเงิน​มาจับจ่ายใช้สอยในประเทศ​

ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่า ถ้าเทียบเรือแห่งนี้ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก สามารถทำการค้าขายได้เป็นอย่างดี และถ้าเทียบเรือแห่งนี้ยังเป็นท่าเรือแห่งเดียวที่ทำการประมูลสด ทำให้ราคาของสินค้านั้นเกิดความเป็นธรรม จึงสามารถพัฒนาต่อยอด รวมไปถึงจะปรับรูปแบบเพิ่มมิติการค้าขายสัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้น​ 

ขณะที่การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย อนุชา กล่าวว่า ปัญหานี้เป็นปัญหาหลักในระดับรัฐบาล และเป็นปัญหาในระดับระหว่างประเทศ​ ซึ่งรัฐบาลก็มีความพยายามในการทำงานเพื่อให้ตอบโจทย์กับ IUU แต่เหลืออื่นใดประชาชนยังต้องทำการค้าขาย​ ทำประมง​ จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาในทุกมิติ​ แม้กระทั่งชาวประมงที่มีความยากลำบากที่จะผ่านกฎของ IUU สามารถมีชีวิตด้วยความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ พยายามที่จะสะท้อนกฎเกณฑ์และกฎระเบียบต่างๆของ IUU เพื่อให้สามารถทำการค้าขายและทำการประมงได้อย่างเต็มศักยภาพ จึงจำเป็นต้องมีการพูดคุยและสะท้อนปัญหาไปยังภาครัฐบาลให้ได้

ขณะเดียวกัน อนุชา​ ปฏิเสธการตอบคำถามถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า ตนไม่ได้ยินถึงกระแสดังกล่าวและขณะนี้ไม่มีอะไร