ไม่พบผลการค้นหา
เข้าสู่วันที่สองแล้วที่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานยูเครนอย่างเป็นทางการ ในขณะที่ตั้งแต่เช้าของวันนี้ (25 ก.พ.) มีรายงานพบว่ารัสเซียได้เร่งรัดในการรุกรานยูเครนมากขึ้น โดยกองทัพของรัสซียได้ล้อมรอบอยู่ที่บริเวณเมืองชายขอบของกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเอาไว้แล้ว

รัสเซียได้เริ่มปฏิบัติการพิเศษทางการทหารที่อ้างว่าเป็น “กองกำลังรักษาสันติภาพ” ก่อนที่กองทัพรัสเซียภายใต้การสั่งการของ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียจะได้เริ่มส่งเครื่องบินรบ กองกำลัง ตลอดจนรถถังบุกประชิดยูเครนด้วยการสามทิศทาง ตั้งแต่ด้านทิศเหนือ ทิศตะวันออก จรดทิศใต้ของยูเครน โดยการโจมตีในครั้งนี้ของรัสเซียกำลังจะพลิกหน้าประวัติศาสตร์อันดำมืดของยุโรปขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

เสียงระเบิดเกิดขึ้นตลอดเวลาในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ในขณะที่ผู้นำชาติพันธมิตรตะวันตกได้วางระเบียบวาระในการหารือพูดคุยเพื่อยกระดับมาตรการการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนได้ร้องขอความช่วยเหลือจากประชาคมโลก ให้เข้าช่วยยูเครนจากวิกฤตในครั้งนี้

“ถ้าคุณไม่ช่วยเราในตอนนี้ ถ้าคุณพลาดในการมอบความช่วยเหลืออันทรงพลังมายังยูเครน สงครามจะมาเยือนหน้าบ้านของพวกคุณในวันพรุ่งนี้” เซเลนสกีระบุถึงชาติตะวันตก หลังจากยูเครนเพิ่งประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียเมื่อวานนี้ (24 ก.พ.)

จากรายงานล่าสุดระบุว่า ยูเครนได้สังหารทหารของรัสเซียลงแล้วอย่างน้อย 50 ราย และเครื่องบินรบอย่างน้อย 6 ลำของรัสเซียได้ถูกยูเครนยิงตก ตลอดจนรถถังรัสเซียอีกอย่างน้อย 4 คันถูกทำลาย ทั้งนี้ เซเลนสกียืนยันว่ามีประชาชนชาวยูเครนรวมถึงเจ้าหน้าที่เสียชีวิตจากการโจมตีของรัสเซียแล้วอย่างน้อย 137 ราย และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 316 ราย

สหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ยูเครน “อาจถูกปิดล้อมได้อย่างเด็ดขาด” จากกองทัพรัสเซีย โดยสหรัฐฯ เชื่อว่า รัสเซียมีความพยายามในการจัดตั้งระบอบการปกครองของตนเองลงในยูเครน เพื่อแทนที่รัฐบาลชุดปัจจุบันซึ่งรัสเซียกล่าวหาว่าเป็น “นาซียูเครน” และกำลัง “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชนชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน

จากรายงานของกองทัพยูเครนระบุว่า รัสเซียได้มีการสู้รบครั้งใหญ่กับยูเครนบริเวณเมืองอิวานกิฟ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากกรุงเคียฟเพียงแค่ 60 กิโลเมตรในทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า รัสเซียกำลังมีความพยายามในการรุกรายูเครนที่มากไปกว่าพื้นที่โดเนสต์และลูฮันสก์ในยูเครน ซึ่งเป็นที่ปักหลักของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ที่รัสเซียหนุนหลังและประกาศรับรองเอกราชไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (21 ก.พ.) แต่กำลังตั้งเป้าในการบุกกรุงเคียฟด้วย

หลังจากการปฏิเสธมาอย่างยาวนานของปูตินว่า รัสเซียไม่มีเจตนาในการรุกรานยูเครน อย่างไรก็ดี ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ปูตินได้สั่งการให้มีปฏิบัติการพิเศษทางการทหารเพื่อรุกรานยูเครน ก่อนที่ปูตินจะให้ข้อกล่าวอ้างใหม่ว่า รัสเซียไม่มีเจตนาในการบุกยึดยูเครน ขัดแย้งกันกับการยกกำลังและถล่มยิงขีปนาวุธใส่ยูเครน จนเมืองกว่าหลายสิบแห่งได้ยินเสียงระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่เว้นแม้แต่กรุงเคียฟเอง

ในตอนนี้ ทั่วทั้งยูเครนกำลังถูกรัสเซียโจมตีทางอากาศอย่างหนัก ผู้คนนับแสนรายต้องอพยพลี้ภัยออกจากบริเวณยูเครนตะวันออกแล้ว ในขณะที่ปูตินขู่ออกโทรทัศน์ว่า ประเทศใดก็ตามที่เข้าขัดขวางปฏิบัติการณ์ของรัสเซียในยูเครนในครั้งนี้จะต้องพบกับ “ผลลัพธ์ที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน” 

ที่มา:

https://apnews.com/article/russia-ukraine-vladimir-putin-volodymyr-zelenskyy-boris-johnson-business-08f569df695831ee467979527ea2e241?fbclid=IwAR1xKPKm5KiwwYtGI1bryKaP1r6xyNHu9db_Kpr6QH7GMxnB-_bAQT9qGGM

https://www.bbc.com/news/world-europe-60513116