ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า ชาวอุยกูร์ที่เป็นชนกลุ่มน้อยในซินเจียง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ถูกควบคุมตัวและบังคับใช้แรงงานผิดกฎหมาย ในขณะที่ทางการจีนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหากรณีค่ายกักกัน และบังคับใช้แรงงานทาสชาวอุยกูร์มาโดยตลอด
มาตรการดังกล่าวจะขยายผลไปถึงการนำเข้าทั้งหมดภายใต้กฎหมายป้องกันแรงงานที่ถูกบังคับชาวอุยกูร์ (UFLPA) ซึ่งถูกกำหนดให้มีผลบังคับใช้ในวันนี้ (21 มิ.ย.) เป็นต้นไป
ในแถลงการณ์เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ กล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวส่ง "สารที่ชัดเจนว่าเราจะไม่สนับสนุนการใช้แรงงานทาสของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและอาชญากรรมร้ายแรงต่อมนุษยชาติ"
“รัฐสภาพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประธานาธิบดีไบเดนและคณะรัฐมนตรี เพื่อให้แน่ใจว่ากฎหมายนี้จะได้รับการดำเนินการอย่างเต็มที่และเคร่งครัด” มาร์โค รูบิโอ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน เจฟฟ์ เมอร์คลีย์ วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต และสมาชิกสภานิติบัญญัติอีกสองคนกล่าว
จากข้อมูลของรัฐสภาสหรัฐฯ เผยว่า จีนได้ควบคุมตัวชาวอุยกูร์มากกว่าหนึ่งล้านคนและชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอื่นๆ ในซินเจียงตั้งแต่เดือน เม.ย. 2560 ทั้งนี้ สหรัฐฯ เชื่อว่าผู้ต้องขังหลายหมื่นคนใช้แรงงาน "ด้วยค่าแรงขั้นต่ำเพียงเศษเสี้ยวหรือไม่มีค่าตอบแทนใดๆ เลย" ในซินเจียงและมณฑลอื่นๆ "ภายใต้คำกล่าวอ้างของรัฐบาลจีนว่า เป็นโครงการบรรเทาความยากจนและช่วยเหลือด้านอุตสาหกรรม"
ทางการสหรัฐฯ ยังได้ชี้อีกว่าจีนยังคง "แทรกแซงการตรวจสอบ และระเบียบแบบแผนในการตรวจสอบสินค้าและห่วงโซ่อุปทานในซินเจียง รวมถึงการข่มขู่ผู้ที่อาจเป็นพยานและปกปิดข้อมูลที่เกี่ยวข้อง"
อย่างไรก็ดี จีนปฏิเสธข้อหาการบังคับใช้แรงงาน และอ้างว่าค่ายกักกันในซินเจียงเป็นเพียงสถานที่ "ให้การศึกษาใหม่" ที่ใช้ในการตอบรับกับการก่อการร้าย โดยเมื่อไม่นานมานี้ หวาง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้เรียกข้อกล่าวการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ว่าเป็น "คำโกหกที่ไร้สาระซึงก่อขึ้นโดยอำนาจจากภายนอก" อย่างไรก็ดี เอกสารที่หลุดออกมาจากต่ายกักกัน มีรายละเอียดเกี่ยวกับกรณีการข่มขืนหมู่ การล่วงละเมิดทางเพศ และการทรมานชนกลุ่มน้อย
กลุ่มสิทธิมนุษยชนยังกล่าวหารัฐบาลจีนว่าละเมิดเสรีภาพในการนับถือศาสนา และเสรีภาพอื่นๆ ของชาวอุยกูร์ผ่านการสอดแนม กักขัง ปลูกฝัง หรือแม้กระทั่งบังคับให้ทำหมัน
ทั้งนี้ เมื่อต้นปีที่แล้ว รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งห้ามการนำเข้าผลิตภัณฑ์ฝ้ายและมะเขือเทศจากซินเจียง ก่อนที่ในเวลาต่อมา เมื่อเดือน ก.ค. ปีที่แล้ว UFLPA จะได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาสหรัฐฯ และได้รับการลงนามโดย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน
ตั้งแต่วันนี้ (21 มิ.ย.) เป็นต้นไป เจ้าหน้าที่ศุลกากรสหรัฐฯ จะหยุดการนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากซินเจียงที่เข้ามายังสหรัฐฯ ทั้งนี้ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ กล่าวว่า “สินค้าจะถูกระงับไม่ให้เข้าประเทศ เว้นแต่ผู้นำเข้าจะสามารถพิสูจน์ด้วยหลักฐานที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือว่าสินค้าไม่ได้ผลิตโดยการบังคับใช้แรงงาน"
ที่มา: