หลังจากพายุไต้ฝุ่น ‘พระพิรุณ’ พัดกระหน่ำในภาคกลางและภาคตะวันตกของญี่ปุ่นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 150 ราย ประชาชนยังคงสูญหายอย่างน้อย 56 ราย และประชาชนต้องอพยพทิ้งบ้านเรือนกว่า 2 ล้านคน รวมไปถึงการคมนาคมและถนนสายต่างๆทางภาคตะวันตกของประเทศถูกน้ำท่วมเสียหายหลายเส้นทางโดยจังหวัดที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ จ.ฮิโรชิมา 

ทางด้านนายโยชิฮิเดะ ซูกะ โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า 'ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้นับเป็นภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ในรอบ 30 กว่าปีของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามทางการญี่ปุ่นได้ระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัย อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 75,000 เร่งค้นหาผู้เสียชีวิต และทำการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมแล้ว '

ทั้งนี้ทางการญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงซ่อมแซมระบบไฟฟ้าโดยประชาชนชน 35,000 คนกลับมามีไฟฟ้าใช้แล้ว ขณะที่ประชาชนกว่าอีก 200,000 คนยังคงไม่สามารถเข้าถึงระบบน้ำได้

ทางโฆษกรัฐบาลยังประกาศเตือนประชาชนว่า หลังจากที่พายุฝนผ่านไปแล้วให้ประชาชนระมัดระวังกับอากาศที่อาจพุ่งสูงขึ้นกว่า 35 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่รวมถึงให้ระวังโรคฮีทสโตรก และให้ระวังดินที่อาจถล่มในพื้นที่ต่างๆ

อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลได้ตั้งงบประมาณไว้กว่า 70,000ล้านเยน (ประมาณ 235,000 ล้านบาท) ในการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานต่างๆที่เสียหายจากน้ำท่วมในครั้งนี้ ปัจจุบันในหลายเมืองยังคงมีผู้อพยพอยู่ในที่พักอาศัยชั่วคราวที่ทางการจัดให้หลายหมื่นคน

ในวันนี้(10ก.ค.) มีการประกาศเตือนพายุไต้ฝุ่นลูกใหม่ ‘มาเรีย’ที่คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เกาะไต้หวันในวันพรุ่งนี้(11ก.ค.) และในบางพื้นที่ของเกาะโอกินาวาทางตอนใต้ของญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบจากพายุลูกดังกล่าวซึ่งอาจส่งผลให้มีฝนตกหนักและน้ำท่วม ขณะที่ทางการไต้หวันและทางการจีนได้ประกาศเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และมีการสั่งปิดโรงเรียนหลายแห่งในไต้หวัน รวมไปถึงการยกเลิกเที่ยวบินกว่า 250 เที่ยวบินในวันพรุ่งนี้ 

ที่มา channelnewsasia / straitstimes / japantimes