เมื่อวันที่ 20 ม.ค.65 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมโดย วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาพิจารณาเรื่อง "การปกปิดการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร จนกระทบทำให้ราคาสุกรสูงขึ้น และราคาสินค้าอื่นปรับตัวสูงขึ้น"

โดยวิสุทธิ์ เสนอญัตติโดยระบุว่า เมื่อปี 2561 โรคอหิวาต์แอฟริกาสุกรอุบัติขึ้นที่ประเทศจีน จากนั้นปี 2562 เชื้อได้กระจายไป 34 ประเทศในทวีปเอเชีย และทุกประเทศยอมรับว่าเกิดโรคระบาดนี้ แต่สำหรับประเทศไทยเมื่อมีการไถ่ถามไปยังกรมปศุสัตว์กลับถูกปฏิเสธมาตลอด 

"เราปกปิดองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) เราปกปิด องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เขาพยายามถามมา พวกเราก็พยายามปกปิดมาตลอด" วิสุทธิ์ ระบุ 

เมื่อ 3 ปีก่อน เกษตรกรจังหวัดพะเยา เขาเล่าให้ฟังว่าโรคนี้มาถึงประเทศเพื่อนบ้านแล้ว และเขารู้ว่าเป็น ASF นี่ขนาดเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูทั่วไป ไม่ได้จบการศึกษาสูง ในปี 2562 โรคนี้ก็เข้าสู่จังหวัดเชียงราย และจังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือทั้งหมด โชคดีที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศเขารู้ว่ามันจะระบาดไปทั่ว จึงระดมทุนกันเองได้เงินประมาณ 200 ล้านบาท เอาไว้จ่ายชดใช้ให้เกษตรกรที่ภาคเหนือ ไม่ใช่เงินรัฐบาล ชาวบ้านทราบ ทุกคนทราบ มีแต่รัฐบาลและอธิบดีกรมปศุสัตว์ที่ไม่ทราบ 

ขณะที่ท่านรัฐมนตรีออกมาตอบว่า เป็นโรคลักษณะอาการแบบโรคเพิร์ส ซึ่งโรคเพิร์สเป็นโรคประจำถิ่นของประเทศนี้ มีวัคซีนป้องกันได้ ฉีดยาสองสามเข็มก็หาย แล้วทำไมสั่งให้ปศุสัตว์ไปฝังหมูชาวบ้าน ท่านไม่รู้จริงหรือ หากเป็นโรคเพิร์สทำไมไม่รักษาให้มันหาย คำตอบของท่านไม่ชอบมาพากล เป็นที่มาให้คนเขาสงสัยว่าปกปิดข้อมูล ปกปิดเพื่ออะไร มีอะไรกับบริษัทไหนหรือไม่ 

วิสุทธิ์ ระบุว่า เมื่อ 15 ส.ค. 2562 พรรคเพื่อไทยได้ยื่นกระทู้ถามกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ตอบมาว่าเป็นโรคอหิวาต์แอฟริกา ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหลายชุดเพื่อพิจารณาเรื่องการแพร่ระบาดของโรค ASF และยกขึ้นเป็นวาระแห่งชาติในการเฝ้าระวังและควบคุมโรค ASF อย่างจริงจังโดยเตรียมแผนข้อมูลและการซ้อมรับมือ และจัดตั้งวอร์รูมร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศแล้ว และมีการเบิกงบประมาณกว่า 1 พันล้านบาท 5 ครั้ง เพื่อป้องกันโรค ASF แต่ก็ตอบหลายครั้งว่าไม่ใช่ ASF สรุปแล้วเบิกเงินเท็จหรือเปล่า ถ้าไม่มีโรคนี้แล้วเบิกงบประมาณแผ่นดินไปทำไม 

ปูดหมู จ.พะเยาขนย้ายไม่ได้ แต่หมูของรายใหญ่ขนได้ทั่วประเทศ เอื้อขนหมูไปจีน

วิสุทธิ์ เปิดเผยสาเหตุที่ต้องมีการปกปิดโรค AFS ว่า หมูใน จ.พะเยาขนย้ายไม่ได้ ปศุสัตว์จังหวัดไม่ให้ขน แต่หมูซีกของบริษัทใหญ่ไปได้ทั่วประเทศ เมื่อปี 2562-2563 มีการขนหมูไปประเทศจีนไม่ต่ำกว่า 2 ล้านกว่าตัว ไปแบบถูกต้องผ่านด่านเชียงแสน หมู 2 ล้านตัวจากทั้งหมด 22 ล้านตัว มีคนมาเล่าให้ฟังว่า ถ้าจะเอาไปจริงๆ ไม่ต้องมีใบอะไรสักอย่างในปี 2562-2563 เอาไปได้ง่ายๆ ผ่านชิบปิ้งตัวละ 800 บาท หมูเถื่อนที่ออกไปรัฐไม่ได้อะไรเลย เข้ากระเป๋าใครบ้างผลประโยชน์หลายพันล้านบาท ท่านไปตรวจสอบกันเอาเอง ท่านได้กันอย่างนี้ก็เลยไม่กล้าประกาศโรค ASF เพราะถ้าประกาศไปมันจะขนย้ายหมูยากขึ้น ทำให้คนเสียโอกาสในความร่ำรวยครั้งนี้ 

วิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า การขนหมูไปยังประเทศจีนมีไม่ต่ำกว่า 5 ล้านตัวต่อปี เพราะมีตั๋วผีขนหมูตั้งจุดจ่ายเงินที่ จ.อุตรดิตถ์ ขอให้ รมช.เกษตรฯ ไปตรวจสอบด้วย ขนหมูจากภาคกลางไปสต็อกที่ จ.อุตรดิตถ์ นำเชื้อไปปะปนที่นั่นกันทั้งหมด ใครก็รู้ แต่จะปกปิดกันทำไม 

ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ย้ำว่า ขณะมีโรคระบาด บริษัทใหญ่ชำแหละหมูเอาไปเก็บในห้องเย็น วันนี้ห้องเย็นที่เก็บผลไม้ก็เต็มไปด้วยหมูซีกมหาศาล ต้องขอบคุณที่ตรวจจับเจอ 2 แสนกว่ากิโลกรัม ตนว่ายังมีอีกหลายจุด มีทั่วไปเขาเห็นกันทั้งบ้านทั้งเมือง ท่านก็ยังอุตส่าห์ไปตรวจที่ จ.ปทุมธานี ไปตรวจโกดังเก็บเนื้อวัวกับเนื้อแพะ

"ไม่รู้ที่จริงๆ เหรอ ถ้าไปไม่ถูก บอกผม เดี๋ยวพาไป กล้าเข้าไปไหม วันนี้กักตุนกันเป็นล้านๆ กิโล ร่ำรวยกันมหาศาล หากินบนความทุกข์ยากของประชาชน ผมอายแทน ที่พูดไม่ได้มาต่อว่าแต่มาแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหามันมี ถ้าวันนั้นท่านรับว่าใช่ เพราะความจริงมันใช่ ท่านก็อธิบายชาวบ้านได้ คนที่ทำปศุสัตว์ก็จะเข้าใจในการบริหารจัดการฟาร์ม ต้องทำแบบปิด มันมีวิธีทำอยู่ อบรมปศุสัตว์ทุกอำเภอ ไม่ปล่อยให้พวกเขาเข้าใจผิด จนสุดท้ายหมูเขาตาย ท่านจ่ายเขา 70% แล้วปศุสัตว์ท่านก็ห้ามเลี้ยงหมู 3 ปี แล้วหนี้เขาล่ะท่าน" วิสุทธิ์ ระบุ

ทั้งนี้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่อง การปกปิดการระบาดของโรคอหิวาต์สุกรของรัฐบาลจนส่งผลกระทบให้ราคาสุกรสูงขึ้น รวมทั้งสินค้าอื่นขยับตาม ตามที่ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ รวมทั้งพิจารณา เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและศึกษาแนวทางช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งพรรคก้าวไกล โดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอ

ภายหลังสมาชิก ผู้เสนอญัตติได้อภิปรายสรุปญัตติ และที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ส่งผลของการปรึกษาหารือและข้อเสนอแนะของสมาชิก ไปยังรัฐบาลเพื่อพิจารณาดำเนินการ และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 25 คน กำหนดเวลาพิจารณา 60 วัน